วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559
จากความตายไปสู่ชีวิต FROM DEATH TO LIFE
"ถ้าผู้ใดฟังคำของเราและวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาผู้นั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และไม่ถูกพิพากษา
แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว" (ยอห์น 5:24)
ดิฉันดูแลโจเซฟินพี่สาวที่ป่วยใกล้จะเสียชีวิต หน้าที่ของดิฉันระหว่างสองสัปดาห์
นั้นมีทั้งการแสดงความรักด้วยการคอยฟังคอยป้อนอาหารและให้ความมั่นใจว่าพระเจ้า
ทรงประทับอยู่ด้วย ครั้งหนึ่งระหว่างที่เยี่ยมโจเซฟิน พยาบาลขอให้ดิฉันนั่งข้างเตียงเธอ
ต่อหลังจากหมดเวลาเยี่ยมแล้ว ดิฉันรู้สึกดีใจทีได้อยู่กับพี่สาวนานขึ้น
ตอนนั้นพี่สาวขอให้ดิฉันช่วยพาไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ช่วยสวมเสื้อผ้า พาไป
ที่เตียงและห่มผ้าให้ ดิฉันคิดว่าอาการของพี่คงกำลังดีขึ้น แล้วโจเซฟินก็กระซิบบอกดิฉัน
ว่า “ไวโอเลต เดี๋ยวนี้เธอกลับได้แล้ว พระเจ้าจะทรงอวยพรเธอ” ขณะเดินทางกลับบ้านก็มี
โทรศัพท์เรียกให้กลับไปโรงพยาบาลด่วน พอไปถึงเขาก็ให้อยู่ที่ห้องนั่งรอและบอกว่าพี่สาว
เสียชีวิตแล้วหลังจากที่ดิฉันกลับไปได้ไม่นาน ถึงดิฉันจะรู้สึกเจ็บปวดมากแต่คำพูดครั้ง
สุดท้ายของพี่สาวก็ช่วยให้รู้สึกสบายใจ
ดิฉันคิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสได้ยินคำพูดครั้งสุดท้ายของผู้ใด คำพูดที่ว่านั้นทำให้ดิฉัน
คิดถึงตอนเรียนรวีวารศึกษาเรื่องพระดำรัสครั้งสุดท้ายของพระเยซูที่ตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า
ข้าพระองค์ฝากวิญญาณจิตของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” แสดงว่าพระเยซู
ทรงรู้ดีว่าพระองค์กำลังจะไปที่ไหน ใครๆ ที่รู้จักและเชื่อฟังพระเจ้าสามารถเผชิญความตาย
ด้วยความมั่นใจว่า อีกไม่นานจะได้พักผ่อนนอนหลับในอ้อมกอดของพระเจ้า เหมือนพระเยซู
และพี่สาวของดิฉัน
ข้อคิดสำหรับวันนี้: เมื่อเผชิญความตาย พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์ให้
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเป็นเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงสัญญาว่าถ้าอยู่ในพระคริสต์ข้าพระองค์
ทั้งหลายจะมีชีวิตนิรันดร์กับพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ผู้เขียน: ไวโอเลต มูตาซา (ฮาราเร ซิมบับเว)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน : พยาบาล
-------------------------------------------
Jesus said, “Anyone who hears my word and believes him who sent me . . . does not come under judgment, but has passed from death to life.”- John 5:24 (NRSV)
I was taking care of my sister, Josephine, who had a terminal condition. For two weeks my duties had included showing her love by listening to her, helping her eat, and assuring her that God was present with her. During one of the visits, the nurses asked me to stay by her bedside even after visiting hours. I was grateful for the extra time with my sister.
While I was there, my sister asked me to help her take a bath. After the bath as I helped her dress, led her into bed, and tucked her in, I remember thinking that she was getting well. Josephine then whispered, “Violet, you can go now. God will bless you.” As I was on my way home, I was called back to the hospital. On arrival, I was ushered into a waiting room and told that my sister had passed on shortly after I left. Though I felt great pain, her last words consoled me, “God will bless you.”
I never imagined that I would have the privilege of hearing someone’s last words, and these words reminded me of what I had been taught in Sunday school about Jesus’ seven last sayings. The seventh one, “Father, into your hands I commit my spirit,” means that Jesus knew where his spirit would be going. Like Jesus and my sister, anyone who knows and obeys God can face death with the assurance that they will soon be resting in the arms of God.
The Author: Violet Mutasa (Harare, Zimbabwe)
Thought for the Day: In the face of death, God offers eternal life.
Prayer: Dear God, thank you for your promise that in Christ Jesus we have eternal life with you. Amen.
Prayer focus: NURSES
วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ขอเพียงให้รู้เรื่องจริงๆ IF ONLY THEY KNEW
"ความพึงใจของท่าน (หน่อจากตอเจสซี) ก็ในความยำเกรง
พระเจ้า ท่านจะไม่พิพากษาตามซึ่งตาท่านเห็น
หรือตัดสินตามซึ่งหูท่านได้ยิน: (อิสยาห์11:3)
ดิฉันขับรถถูกเลนและเหยียบคันเร่งเต็มที่ ตรงนั้นกำหนดให้ขับด้วยอัตราความเร็ว
50 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่รถของดิฉันไปเร็วได้ไม่เกิน 20 ไมล์ต่อชั่วโมง ผู้ขับหลายคน
จ้องหน้าดิฉันเมื่อขับแซงหน้าขึ้นไป บางคนชูกำปั้นและทำปากขมุบขมิบ ขอบคุณพระเจ้า
ที่ดิฉันไม่เข้าใจความหมาย พวกเขาไม่รู้หรอกว่าดิฉันขับเร็วที่สุดเท่าที่รถจะเร็วได้แล้ว
แต่พวกเขาตัดสินตามที่ตามองเห็นเท่านั้นซึ่งไม่ยุติธรรมเลย
สิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ไม่ได้เป็นเหมือนภาพที่ตามองเห็นเสมอไป ถ้าขาด
ข้อมูลที่ถูกต้องหรือมองข้ามไปแล้วเราทุกคนก็ต้องมีวิธีสันนิษฐานหรือเดาเอาเอง ดิฉัน
รู้ดีว่าในที่สุดจะเป็นเช่นไรถ้าเราตัดสินเรื่องอย่างไม่สมเหตุผล พระเจ้าทรงใช้เหตุการณ์
นี้ทำให้ดิฉันถ่อมใจและทรงเผยให้เห็นความผิดที่เกิดขึ้นในใจของดิฉันเอง จึงเป็นเวลา
ที่ดิฉันกลับใจใหม่และหันจากความผิดบาป
บ่อยเท่าไรหนอที่เราด่วนสรุปเรื่องแบบผิดๆ เพราะไม่ได้รับข้อเท็จจริงทั้งหมด
บ่อยแค่ไหนที่เราคิดถึงเรื่องของคนอื่นแบบให้ร้ายป้ายสีแทนที่เราจะกล่าวร้ายผู้อื่น
เราน่าจะชื่นชมความดีของพระเจ้าและเริ่มเรียนวิธีแบ่งปันพระคุณของพระองค์แก่ผู้อื่น
ในยามที่พวกเขาต้องการ
ข้อคิดสำหรับวันนี้: “ความกรุณาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา” (ยากอบ 2:13)
อธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ใจข้าพระองค์ทั้งหลายค้นหาความจริงยิ่งกว่าที่ตามองเห็น
เพื่อจะได้ไม่ตัดสินผู้อื่นผิดไป ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ผู้เขียน : ลิเดีย โกเมซ เรยส์(เท็กซัส)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่เราเคยกล่าวโทษเขา
------------------------------------
"His delight shall be in the fear of the LORD. He shall not judge by what his eyes see, or decide by what his ears hear."
- Isaiah 11:3 (NRSV)
I was driving in the right lane with my foot to the floorboard. The speed limit was 50 mph, but my car would not go any faster than 20 mph. Several drivers glared as they sped past me. Some had clenched fists, uttering words I thankfully couldn’t understand. They had no idea that I was going as fast as my car would allow. They unfairly judged me solely because of what they saw.
Circumstances and situations aren’t always as they appear. When relevant information is missing or overlooked, we all make assumptions. I learned what it’s like to be on the receiving end of unmerited judgment. God used this incident to humble me and to reveal the sin in my own heart. It was time for me to repent, to turn away from my sin.
How often do we jump to wrong conclusions because we failed to get all the facts? How often have our thoughts about others been judgmental? Instead of judging others, we can delight in God’s goodness and begin to learn how to extend God’s grace to others in their times of need.
Thought for the Day: “Mercy triumphs over judgment” (Jas. 2:13, NIV, NRSV).
Prayer: Dear Lord, empower our hearts to search beyond what our eyes see so that we are careful not to pass judgment on others. Amen.
Prayer focus: SOMEONE I HAVE JUDGED
The Author: Lydia Gomez Reyes (Texas, USA)
วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ให้ด้วยใจ GIVING FROM THE HEART
พระองค์ตรัสว่า “เราบอกท่านทั้งหลายจริงๆ ว่าหญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้มากกว่าคนทั้งปวงนี้ (ลูกา 21:3)
เมื่อสี่สิบปีก่อนขณะที่ดิฉันอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้รู้จักองค์กรหนึ่งที่ช่วยเหลือ
เด็กยากจนทั่วโลก แต่ดิฉันเป็นแม่หม้ายมีลูกติดสามคนและยากจนเกินไปไม่สามารถ
บริจาคอะไรได้พอถึงปีค.ศ. 1976 พระเจ้าทรงเรียกดิฉันกลับมาเป็นครูสอนพระคัมภีร์
ที่ไอซแลนด์แต่ก็ยังยากจนอยู่แต่ในปีค.ศ. 1978 พระเจ้าทรงช่วยดิฉันให้สามารถ
เป็นผู้อุปการะเด็กทั่วโลกได้เด็กคนแรกที่เราอุปการะเป็นเด็กหญิงจากประเทศอินเดีย
นับตั้งแต่นั้นมาดิฉันก็อุปการะเด็กในประเทศเม็กซิโก ฮอนดูรัส กัวเตมาลา รวันดา
บาร์บาโดส ไทย รวมทั้งเด็กชาวอินเดียนพื้นเมืองในเขตสงวนของอเมริกาด้วย
ถึงดิฉันจะอายุ 77 ปีก็ยังอุปการะเด็กสี่คนได้ ทั้งๆ ที่ดิฉันรับเบี้ยยังชีพสำหรับ
คนพิการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1985 พระเยซูทรงสอนไว้ในข้อพระคัมภีร์สำหรับอ่านวันนี้ให้
รู้ว่าพระเจ้ามิได้ทรงเห็นว่าจำนวนเงินเป็นเรื่องใหญ่แต่ที่สำคัญก็คือการถวายด้วยใจ
เอื้อเฟื้อต่างหาก การถวายเล็กๆ น้อยๆ ของดิฉันช่วยเด็กสองคนที่อูกันดาได้ตลอด
เดือน ดิฉันบริจาคเท่าที่พอทำได้และขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับความยินดีที่ได้รับจาก
การช่วยเหลือเด็กสองคนนี้.
ข้อคิดสำหรับวันนี้=พระเจ้าทรงทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้
อธิษฐาน =ข้าแต่พระเจ้า ขออย่าให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย
ลืมคนอดอยากในโลก แต่ขอทรงช่วยให้ระลึกว่า แม้
จะบริจาคได้แค่เล็กน้อยก็สามารถสร้างความแตกต่าง
อย่างสำคัญได้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ผู้เขียน - ซอนยา อาร์. ฮาโรลด์ส (ไอซแลนด์)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน = เด็กๆ ที่อดอยาก
-----------------------------------------------------------------
“Truly I tell you,” [Jesus] said, “this poor widow has put in more than all the others.”- Luke 21:3 (NIV)
Forty years ago, when I lived in the United States, I learned about an organization that helped poor children all over the world. But as a single mother of three, I myself was too poor to make a contribution. Then in 1976, God called me back to Iceland to teach the Bible here. We were still poor, but in 1978 God made it possible for me to be a sponsor for children around the world. The first child I sponsored was a girl from India. Since then I have sponsored children in Mexico, Honduras, Guatemala, Rwanda, Barbados, Thailand, as well as on Native American reservations.
At age 77, I still sponsor four children, though I have lived on disability since 1985. I am encouraged by today’s reading in which Jesus teaches us that it’s not the size of the gift that matters to God but the generosity of the giver’s heart. My small contribution sustains two children in Uganda for a whole month! I contribute what I can, and I thank God for the joy I receive from helping these children.
Thought for the Day : God makes all things possible.
Prayer : Dear Lord, do not let us forget the hungry people in this world, but help us to remember that even small contributions can make a big difference. Amen.
Prayer focus : CHILDREN WHO ARE HUNGRY
The Author : Sonja R. Haralds (Iceland)
วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ลูกศรชี้ทาง DIRECTIONAL ARROWS
"ความหวังที่เรายึดนั้นเป็นเสมือนสมอที่แน่และมั่นคงของจิตใจ ความหวังนั้นที่นำไปสู่อภิสุทธิสถานข้างหลังม่านที่พระเยซูผู้ทรงนำหน้าได้เสด็จเข้าไปก่อนเพื่อเราแล้ว" (ฮีบรู6:19-20)
ตะวันขึ้นมาแล้วหนึ่งชั่วโมง ผมกับเพื่อนรับผิดชอบตั้งป้ายบอกทางคนเดินและ
วิ่งแข่งระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งคริสตจักรใกล้เคียงสองแห่งเป็นผู้สนับสนุน เราเริ่มทำงานโดย
ใช้รถปิคอัพขนป้ายบอกทาง น้ำดื่มระหว่างครึ่งทางและแผนที่ เราทำเครื่องหมายชั่วคราวเพื่อ
บอกทางตรงไปและทางเลี้ยวแก่ผู้แข่งขันโดยใช้ป้ายลูกศรชี้เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครหลงทาง
บางครั้งชีวิตผมเคยหลงเพราะไม่สนใจลูกศรบอกทางที่พบในพระคัมภีร์ ลูกศร
ชี้ทางในการวิ่งแข่งต้องเลิกใช้ในที่สุด แต่ปัญญาและแนวทางที่พบในพระคัมภีร์มีอยู่
ถาวร ผมสามารถรับบทเรียนจากการเลี้ยวผิดทางหรือติดตามการทรงนำของพระเจ้า
ขึ้นอยู่กับการถวายเวลาเพื่ออยู่ใกล้กับพระเจ้าทุกวันด้วยการอ่านพระคัมภีร์พระธรรม
สุภาษิต 3:3 บอกไว้ดังนี้“อย่าให้ความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ทอดทิ้งเจ้า จงผูก
มันไว้ที่คอของเจ้า จงเขียนมันไว้ที่แผ่นจารึกแห่งหัวใจของเจ้า”
ข้อคิดสำหรับวันนี้:แม้เมื่อเดินทางผิดก็ยังเป็นโอกาสให้เติบโตในความเชื่อได้
อธิษฐาน: ข้าแต่พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้จงรักภักดี
และสัตย์ซื่อต่อพระองค์มากขึ้นทุกวัน ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ผู้เขียน:บิลล์ ไพค์(เวอร์จิเนีย)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน :การจัดทีมสำหรับวาระสำคัญๆ ของคริสตจักร
-------------------------------------------------------------------
"We have this hope, a sure and steadfast anchor of the soul, a hope that enters the inner shrine behind the curtain, where Jesus, a forerunner on our behalf, has entered."
- Hebrews 6:19-20 (NRSV)
With sunrise an hour away, my friend and I had the responsibility of marking the 5K course for the walkers and runners participating in the race sponsored by two neighborhood churches. In a pickup truck, carrying directional signs, water for the halfway point, and a map, we started. We marked the straightaways and turns for the participants with temporary directional arrows to ensure that no one would go the wrong way.
At times in my life, I have gone the wrong way, ignoring the directional arrows found in the Bible. Eventually, the arrows on the race course disappeared; but the wisdom and guidance found in the Bible endure. My capacity to learn from making wrong turns and to follow God’s leading depends on my daily commitment to connect with the Lord through reading the Bible. Proverbs 3:3 captures the direction I need: “Do not let loyalty and faithfulness forsake you; bind them around your neck, write them on the tablet of your heart.”
The Author--Bill Pike (Virginia, USA)
Thought for the Day-Even wrong turns can be an opportunity to grow in my faith.
Prayer -Heavenly Father, help us to be more loyal and faithful to you each day. Amen.
Prayer focus-PLANNING TEAMS FOR CHURCH EVENTS
วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559
จำได้ไม่ผิด UNMISTAKEN IDENTITY
“อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา" (อิสยาห์43:1)
ครั้งหนึ่งในวันอาทิตย์ พนักงานเก็บเงินที่ร้านค้าประจำตำบลยิ้มให้เมื่อเธอรับธนบัตร
จากผม ตอนส่งใบเสร็จรับเงินให้เธอพูดกับผมว่า “ขอบคุณค่ะ คุณจอห์น” ผมรู้สึกงง
ว่าทำไมเธอถึงรู้จักชื่อของผมแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังกลัดป้ายชื่อตนเองตอนเข้านมัสการ
ในโบสถ์อยู่
รายการป้ายชื่อของเราที่คริสตจักรและข้อพระคัมภีร์จากอิสยาห์ที่อ่านวันนี้สำคัญมาก การกลัดป้ายชื่อสมาชิกคริสตจักรก็
เพื่อช่วยให้ผู้มาใหม่รู้จักชื่อของใครต่อใครและรู้สึกเป็นกันเอง ป้ายชื่อยังเตือนใจทั้งผู้
กลัดและผู้อ่านว่าพระเจ้าทรงเรียกแต่ละคนตามชื่อของเรา ผมจึงนึกขึ้นได้ว่าที่ผมกลัด
ป้ายชื่อไว้เท่ากับบอกคนในร้านให้รู้ว่าผมเป็นใครโดยไม่รู้ตัว
หลังจากประสบการณ์นี้แล้ว เดี๋ยวนี้ผมเห็นความสำคัญของการกลัดป้ายชื่อสมาชิก
คริสตจักรในที่สาธารณะทั้งก่อนและหลังนมัสการ ป้ายชื่อทำให้ผมสำนึกว่าคนอื่นอาจ
จะสังเกตการกระทำของผม และเป็นการเตือนใจให้รู้ว่าวันนี้ผมอาจจะเป็นตัวอย่างของ
คริสเตียนที่ดีที่บางคนอาจจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง การทำเช่นนี้บอกให้รู้ว่าพระเจ้าทรงเรียก
ชื่อเราแต่ละคนให้ทำตนเป็นแบบอย่างของความรักในพระคริสต์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ข้าพเจ้าจะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าพระเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าตามชื่อได้อย่างไร
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเรียกข้าพระองค์ทั้งหลายให้เป็นประชาชนของ
พระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ได้ประกาศให้โลกรู้จักความรอดที่ทรงประทานไว้ใน
พระคริสต์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: เพื่อให้กล้าแบ่งปันพระคริสต์แก่ผู้อื่น
ผู้เขียน : จอห์น บลอสซัม (ค็อนเน็กติ
------------------------------------
The Lord says, “Do not fear, for I have redeemed you; I have called you by name, you are mine.”
- Isaiah 43:1 (NRSV)
One Sunday the cashier at a local store was smiling at me broadly as she totaled my bill. As she handed me my receipt, she said, “Have a great day, John!” I was puzzled by how she knew my name. Then I realized that I was still wearing my name tag from church.
Our name tags list the name of our church and today’s quoted verse from Isaiah. By wearing these name tags, church members hope to help newcomers learn people’s names and feel welcome. The quote on the tags also reminds the wearer and the reader that God has called us each by name. I realized that by wearing my name tag, I was sharing this message of welcome with people in the store — and I didn’t even realize it!
After this experience, I now make it a point to wear my church name tag in public places before and after our worship services. My name tag makes me more aware that people may notice my behavior, and so I am mindful that I may be the best example of a Christian that someone might see that day. This practice reminds me that God has called each of us by name to be living examples of God’s love in Christ no matter where we are.
The Author: John Blossom (Connecticut, USA)
Thought for the Day: How do I show others that God has called them by name?
Prayer: Dear Lord, you have called us by name to be your people. Help us to proclaim your gift of salvation in Christ to the world. Amen.
Prayer focus: FOR COURAGE TO SHARE CHRIST WITH OTHERS
วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559
รบกวนพระเจ้า PESTERING GOD
"เจ้าทั้งหลายผู้ที่คอยฟื้นความทรงจำของพระเจ้าไม่ต้องหยุดพัก และอย่าให้พระองค์หยุดพัก (อิสยาห์62:6-7)
ดิฉันพูดว่า “นะแม่จ๋า นะแม่นะ นะแม่นะ“ ตอนเป็นเด็กถ้าอยากให้คุณแม่อนุญาต
ทำอะไร ดิฉันจะเซ้าซี้ท่านไม่ยอมหยุด จนหลายครั้งท่านต้องบอกให้หยุดรบเร้าเพราะ
ท่านได้ยินแล้วและกำลังพิจารณาคำขอของดิฉันอยู่ แต่ดิฉันไม่ยอมหยุดง่ายๆ เพราะ
ดิฉันเป็นคนชอบขอ
เมื่อหลายปีก่อนลูกของดิฉันคนหนึ่งมีปัญหาอย่างน่าเป็นห่วง ดิฉันอธิษฐานตลอด
เพราะไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไปได้ดิฉันเป็นห่วงมากจนคิดว่าตนเองกำลัง
ทำให้พระเจ้ารำคาญเหมือนที่เคยทำให้คุณแม่รำคาญตอนที่รบเร้าท่านไม่ยอมหยุด
แล้วดิฉันก็สบายใจอย่างน่าทึ่งเพราะพบคำอุปมาของพระเยซูในลูกา 18:1-7 ที่
สอนว่าพระเจ้าไม่ทรงรำคาญที่เราอธิษฐานรบเร้าพระองค์ตลอดเวลา น่าดีใจยิ่งนักที่รู้
ว่าพระเจ้าทรงต้องการให้เรานำความวิตกทุกข์ร้อนทูลพระองค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้
สถานการณ์ปัจจุบันที่ทำให้ดิฉันเป็นห่วงมากจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ดิฉันก็ยังรบเร้า
เซ้าซี้พระเจ้าอยู่ เดี๋ยวนี้ดิฉันยิ้มได้และขอบพระคุณที่ทรงยอมให้ดิฉันร้องทูลเรื่อง
ความเป็นห่วงของดิฉันซ้ำๆ
ข้อคิดสำหรับวันนี้: พระเจ้าทรงยินดีรับฟังคำอธิษฐานของเราเสมอ
อธิษฐาน: ข้าแต่พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ขอบพระคุณที่ทรงอดทนฟังคำทูลขอ โปรด
ให้ภาระหนักของข้าพระองค์ทั้งหลายเบาลงเมื่อนำมากราบทูลให้ทรงทราบ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ผู้เขียน: ฮาร์เรียต ไมเคิล (เค็นทักกี้)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: คนที่ข้าพเจ้าเป็นห่วง
------------------------------------------------------------
"You who call on the LORD, give yourselves no rest, and give him no rest."- Isaiah 62:6-7 (NIV)
“Oh please, Mommy! Please! Oh please!” I said. When I was a child and wanted my mother to say yes, I pestered her constantly. She often told me to stop begging, that she had heard me already and was considering my request. But it was hard for me to be quiet; pleading for something I wanted seemed to be in my nature.
Some years ago, one of my children was struggling, and I was concerned. I prayed about it constantly. I couldn’t let it go. My concern was so great that I found myself thinking, I must be driving God crazy, the way I used to drive my mom crazy when I pestered her.
Then to my amazement and relief, I discovered Jesus’ parable in Luke 18:1-7. God is not bothered by our constant prayers. How reassuring to know that God wants to hear our concerns over and over again! Today the situation I was so concerned about has been resolved. But of course, I’m still pestering God. Now I smile and thank the Lord for letting me voice my concerns in prayer over and over again.
The Author: Harriet Michael (Kentucky, USA)
Thought for the Day: God always welcomes my prayers.
Prayer: Heavenly Father, thank you for your patience. Ease our burdens as we bring them to you in prayer. In Jesus’ name, we pray. Amen.
Prayer focus: SOMEONE I AM WORRIED ABOUT
วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ไม่มีวันลืม NEVER FORGOTTEN
พระเยซูตรัสว่า “นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค” (มัทธิว 28:20 )
ระหว่างเดินไปตามริมทะเลสาบในอุทยานท้องถิ่นของเรา เพื่อถ่ายภาพสวนดอกไม้
สวยงาม ผิงแดดและสูดอากาศอุ่นๆ ดิฉันเห็นของบางอย่างตกอยู่ที่พื้นดิน เป็นรถ
เด็กเล่นขนาดจิ๋วมีสนิมขึ้นเกรอะซึ่งคงจะถูกหนูน้อยเจ้าของมันลืมทิ้งไว้ ดิฉันซึ่งกำลัง
อยู่ในสภาวะตกต่ำ บางครั้งก็รู้สึกว่าถูกลืมทิ้งไว้ไม่มีใครแลเหลียว แต่พระวจนะของ
พระเจ้าคอยเตือนดิฉันให้รู้ว่าหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
หลังจากโมเสสสิ้นชีวิต ทิ้งความรับผิดชอบที่หนักอึ้งให้โยชูวานำพวกอิสราเอล
เข้าสู่แผ่นดินพระสัญญาแทน พระเจ้าทรงหนุนใจโยชูวาโดยทรงสัญญาว่า “เราอยู่กับ
โมเสสมาแล้วฉันใด เราจะอยู่กับเจ้าฉันนั้น เราจะไม่ละเลยหรือละทิ้งเจ้า” (โยชูวา 1:5)
ในพระธรรมยอห์นบทที่ 14 พระเยซูทรงเตรียมสาวกของพระองค์ไว้ก่อนจะเสด็จ
จากไปอย่างกะทันหัน ทรงบอกพวกเขาว่า “อย่าให้ใจท่านทั้งหลายวิตกเลย” (ข้อ 1)
หลังจากนั้นอีกเล็กน้อยก็ทรงสัญญาว่า “เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว
เราจะมาหาท่าน” (ข้อ 18)
บางครั้งเราอาจจะรู้สึกเหมือนไม่มีใครแลเหลียว และคิดว่าเราถูกลืมทิ้งไว้ให้อยู่
โดดเดี่ยว แต่ก็ชื่นใจในความจริงที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าพระองค์ไม่มีวันทอดทิ้งหรือ
ละลืมเรา
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเป็นเจ้า ขอบพระคุณสำหรับความรักและที่ทรงประทับอยู่ในชีวิต
ของข้าพระองค์ทั้งหลายอย่างซื่อสัตย์แม้เมื่อไม่รู้ตัวว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วย ทูลในพระนาม
พระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน.
ข้อคิดสำหรับวันนี้:เพราะพระเจ้าทรงสร้างข้าพเจ้า พระองค์ไม่มีวันลืมข้าพเจ้า
ผู้เขียน: ปามีลา แมนเนอร์(นิวเจอร์ซี)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่สู้กับสภาวะตกต่ำของชีวิต
------------------------------------------
Jesus said, “Look, I myself will be with you every day until the end of this present age.”- Matthew 28:20 (CEB)
While walking along the lakeside of our local county park, taking photos of the beautiful landscape, and enjoying the sunshine and warm breezes, I noticed something lying in the dirt. It was a child’s tiny toy truck — rusty, dented, apparently abandoned and forgotten by its young owner. As someone struggling with depression, I can often feel the same way: cast aside and forgotten. But God’s word reminds me that’s not so!
After Moses died, leaving Joshua with the overwhelming responsibility of leading the Israelites into the Promised Land, God encouraged Joshua by promising: “As I was with Moses, so I will be with you; I will not fail you or forsake you.”
And in John 14, Jesus prepared his disciples for his imminent departure. “Do not let your hearts be troubled,” he told them (v. 1); and a little later on, he promised, “I will not leave you orphaned; I am coming to you” (v. 18).
At times, we may feel as though no one cares about us, making us think we have been abandoned and forgotten. But we can take comfort in the truth of God’s promise never to leave us or forsake us.
The Author: Pamela Manners (New Jersey, USA)
Thought for the Day: Because God made me, God never forgets me.
Prayer: Dear God, thank you for your loving, faithful presence in our lives, even when we can’t feel you here with us. Amen.
Prayer focus:SOMEONE STRUGGLING WITH DEPRESSION
วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ความยินดีจากการเชื่อฟัง THE JOY OF OBEDIENCE
"พระพรเหล่านี้จะตามมาทันท่าน ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน" (เฉลยธรรมบัญญัติ28:2)
เมื่อไม่นานนี้ดิฉันเห็นเด็กนักเรียนคนหนึ่งนั่งโยกเก้าอี้ในชั้น จึงเตือนว่าเคยมี
นักเรียนคนอื่นตกเก้าอี้ขณะนั่งโยกเล่นและต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเย็บแผล เมื่อห้ามเขาแล้วดิฉัน
ก็เดินไปช่วยนักเรียนอีกคนหนึ่งทำเลข แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นนักเรียนที่นั่งโยกเก้าอี้เล่นก็หัวคะมำลง
กับพื้นห้อง ทำให้ดิฉันนึกถึงหลายคนในพระคัมภีร์ที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระเจ้า
พระคัมภีร์บอกว่าพระเจ้าทรงขอให้เราเชื่อฟัง เพราะการเชื่อฟังจะนำพระพรมาให้
ในข้อพระคัมภีร์สำหรับอ่านวันนี้บอกว่าโมเสสท้าชวนพวกอิสราเอลให้“เชื่อฟังพระ-
สุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้า” (เฉลยธรรมบัญญัติ8:1) และบอกด้วยว่าถ้าพวกเขา
กระทำตามพระบัญญัติของพระองค์“พระพรเหล่านี้จะตามมาทันท่าน” (เฉลยธรรมบัญญัติ
28:2) บ้านเมืองของพวกเขาจะได้รับพระพร ครอบครัวและไร่นาของพวกเขาก็จะได้รับ
พระพรอุดมสมบูรณ์สุดท้ายโมเสสสรุปว่า “ท่านจะรับพระพรเมื่อท่านเข้ามาและท่าน
จะรับพระพรเมื่อท่านออกไป” (เฉลยธรรมบัญญัติ28:6)
เส้นทางชีวิตแห่งการเชื่อฟังพระเจ้านั้น บางครั้งมีความลำบากและเดือดร้อน แต่
ก็นำความชื่นชมยินดีมีสุขมาให้
ข้อคิดสำหรับวันนี้: วันนี้ข้าพเจ้าจะเชื่อฟังพระเจ้าได้อย่างไร
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
โดยเฉพาะเมื่อข้าพระองค์พบว่าปฏิบัติตามได้ยาก ขอบพระคุณสำหรับพระพรและความ
ยินดีที่ทรงประทานให้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ผู้เขียน:แมรี อึ้งซูหลิง (สิงคโปร์)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: นักเรียน
--------------------------------------------------
"All these blessings will come on you and accompany you if you obey the LORD your God."- Deuteronomy 28:2 (NIV)
Recently, I saw a student rocking his chair in class. I reminded him that another student had fallen while rocking his chair and had needed to go to the hospital for stitches. I told the student not to rock the chair, and I continued helping another student with his mathematics. A few minutes later, when the student who was rocking his chair fell, I was reminded of how often characters in the Bible struggled to obey God.
In scripture, God calls us to obey because obedience will lead to blessings. Moses challenged Israel in today’s reading to “carefully follow all [the LORD’S] commands.” Moses reminded Israel that in keeping them, “all these blessings will come on you and accompany you.” Their cities would be blessed. Their families and farms would be blessed. They would experience abundance. Moses concluded, “You will be blessed when you come in and blessed when you go out.”
A life of obedience to God requires much and is difficult at times, but the path leads to joy and blessings.
The Author: Mary Ng Shwu Ling (Singapore)
Thought for the Day: How can I be obedient to God today?
Prayer: Father God, help us to obey your commands, especially when we find it difficult. Thank you for the joys and blessings you give us. Amen.
Prayer focus: STUDENTS
พลังเพลงสดุดี POWER OF A PSALM
"ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากไหน ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้า
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก" (สดุดี121:1-2)
ระหว่างที่ลูกชายของเราฝึกบินที่กองทัพอากาศสหรัฐ เขากับเพื่อนๆ ถูกทดสอบ
ขีดจำกัดของพวกเขา ระหว่างการทดสอบนั้นเราผู้เป็นพ่อแม่ให้กำลังใจโดยเขียนจดหมาย
และอธิษฐานเผื่อเขาทุกวันเพื่อหนุนใจเขาโดยใช้สดุดี121 ซึ่งเป็นบทที่เราโปรดปราน สดุดี
บทนี้พูดกับเขาโดยเฉพาะตอนที่บินเหนือภูเขาโคโลราโดว่า “ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความ
อุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากไหน ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้า
สวรรค์และแผ่นดินโลก” เราเคยหนุนใจลูกให้เงยหน้าขึ้นดูภูเขาที่เรียงรายอยู่รอบตัว
และให้ท่องสดุดีบทนี้บ่อยๆ เมื่อจบการฝึกขั้นพื้นฐานแล้ว เขาเล่าให้ฟังว่าเขามีความ
กล้าหาญและได้รับกำลังใจจากพระคัมภีร์ข้อนี้ และจากความเชื่อส่วนตัวของเขาทำให้
สามารถเผชิญการท้าทายที่สุดลำบากได้และช่วยให้มีความมั่นใจขึ้นมาใหม่ตลอดหลาย
ปีที่เขาเข้าโรงเรียนนายร้อยทหาร ลูกชายของเราได้รับแรงบันดาลใจจากพระเจ้าเมื่อ
เข้านมัสการพระองค์ที่ห้องนมัสการของกองทัพอากาศเป็นประจำ ตลอดยี่สิบปีของ
การเป็นนักบินเขารู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้เขาเสมอ
เมื่อใดที่เราพบปัญหา เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่เรารักเสียชีวิตหรือตกงาน เรา
สามารถเปิดพระธรรมสดุดี 121 และเงยหน้าดูพระเจ้าด้วยความมั่นใจว่าพระองค์จะ
ทรงช่วยอุปถัมภ์ค้ำจุนเรา
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ข้าพเจ้าก็ทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าได้
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์ทั้งหลายเงยหน้าดูพระองค์ได้เสมอ
เพราะรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วยและช่วยอุปถัมภ์ข้าพระองค์ในนามพระเยซูคริสต์อาเมน
ผู้เขียน: โดนัลด์ ฮัฟแมน (นอร์ธคาโลไรน่า)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ข้าราชการทหารในกองทัพ
------------------------------------------
"I lift up my eyes to the hills — from where will my help come? My help comes from the LORD."- Psalm 121:1-2 (NRSV)
During our son Paul’s training as a cadet in the U.S. Air Force Academy, he and the other cadets were tested to their limits. As his parents, Betty and I supported him during those trying days. We wrote to him, prayed daily for him, and encouraged him to draw strength from Psalm 121 — a favorite scripture of ours. That psalm spoke directly to him there in the Colorado mountains when the psalmist said: “I lift up my eyes to the hills, from where will my help come? My help comes from the Lord.” We often encouraged our son to look up to the mountains that surrounded him and to remember this psalm.
Upon completion of his basic training, he said that our encouragement and the spiritual strength he drew from this passage — and his own personal faith — had enabled him each day to face tough challenges with renewed confidence. Throughout his years as a cadet, our son continued to draw inspiration from the Lord through regular worship in the Air Force Academy chapel. All during his 20 years as a pilot, he knew that God was near.
When we face difficulties — such as disease, loss of a loved one, or loss of a job — we can turn to Psalm 121 and lift our eyes to the Lord with the assurance that God will help us and sustain us.
The Author: Donald Huffman (North Carolina, USA)
Thought for the Day:Wherever I am, I can seek God’s help.
Prayer: Thank you, O Lord, that we can always look to you, knowing that you are with us and care about us. Amen
Prayer focus: THOSE SERVING IN THE MILITARY
วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559
พระวิญญาณทรงช่วยขอแทนเรา THE SPIRIT INTERCEDES
"พระวิญญาณก็ทรงช่วยเราเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรจะอธิษฐานขอสิ่งใดอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วย
ขอแทนเรา ในเมื่อเราคร่ำครวญอธิษฐานไม่เป็นคำ" (โรม 8:26)
ผมมีปัญหากับการอธิษฐานมานานหลายปี ปัญหาจริงๆ ไม่ได้อยู่ที่การอธิษฐาน
แต่อยู่ที่ผมกลัวว่าจะอธิษฐานได้ไม่ถูกต้อง เคยมีผู้แนะนำวิธีอธิษฐานไว้หลายอย่าง
ทำให้ผมกลัวจนไม่รู้ว่าจะใช้ถ้อยคำอย่างไรดี เมื่อเกิดวิกฤตกาลเล็กน้อยครั้งหนึ่งซึ่ง
ผมอยากจะทูลพระเจ้าให้ทรงรู้ว่าผมต้องการให้พระองค์ประทับอยู่ด้วยไม่ว่าอะไรจะ
เกิดขึ้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจให้ผมอ่านพระธรรมโรม 8:26 ไว้เสมอ จนใน
ที่สุดผมก็เข้าใจดีว่าคำพูดที่ผมใช้นั้นไม่สำคัญเท่าไรนัก ขอเพียงให้อธิษฐานก็แล้วกัน
พระเจ้าทรงรู้ดีว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของเราและเรามีความจำเป็นอย่างไร พระวิญญาณ-
บริสุทธิ์จะทรงช่วยอธิษฐานแทนทุกอย่างที่เราพยายามจะทูลพระเจ้า
นับแต่นั้นมาการอธิษฐานจึงง่ายสำหรับผม บางครั้งผมอธิษฐานแบบใหม่ๆ หรือ
ด้วยวิธีต่างๆ เดี๋ยวนี้แม้เมื่อรู้สึกสับสนวุ่นวายผมก็เข้าใจแล้วว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์
จะทรงช่วยขอแทนและทำให้คำอธิษฐานของผมชัดขึ้น
อธิษฐาน: ข้าแต่พระบิดา ขอบคุณพระองค์สำหรับผู้ที่อธิษฐานแทนข้าพระองค์ทั้งหลาย
และช่วยให้มั่นใจว่าเมื่ออธิษฐานพระองค์ทรงรู้ว่าข้าพระองค์ต้องการทูลอะไรให้ทรง
ทราบ ขออธิษฐานตามที่พระเยซูทรงสอนว่า “ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลายผู้ทรงสถิตในสวรรค์ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่... สืบๆ ไปเป็นนิตย์” อาเมน
ผู้เขียน: โดนัลด์ เลตต์(โอไฮโอ)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่ฝึกอธิษฐานใหม่ๆ
----------------------------
"The Spirit helps us in our weakness. We do not know what we ought to pray for, but the Spirit himself intercedes for us through wordless groans."- Romans 8:26 (NIV)
For years, I had trouble praying. The problem was not in the actual act of prayer but in the fear that I wasn’t praying correctly. I had received so much advice on different ways to pray that I was afraid of not making myself understood. In the midst of a minor crisis in which I wanted to communicate that I needed God with me no matter what happened, the Spirit led me to dwell on Romans 8:26. I finally understood. The words I use are not all that important; I simply need to pray. God knows what is happening in our lives and what we need. And the Holy Spirit helps us to pray, giving voice to all we are trying to say.
Since then, praying has been easier for me. Sometimes I pray in new or different ways. Even when I feel muddled, I now understand that the Spirit intercedes, making my prayers clear to God.
The Author: Donald Lett (Ohio, USA)
Thought for the Day: I can rest in the promise that the Spirit intercedes for me.
Prayer: Thank you, Father, for an intercessor who assures us that when we pray you know what we want to say. As Jesus taught us, we pray, “Our Father which art in heaven, Hallowed be thy name. Thy kingdom come. Thy will be done, as in heaven, so in earth. Give us day by day our daily bread. And forgive us our sins; for we also forgive every one that is indebted to us. And lead us not into temptation; but deliver us from evil” (Luke 11:2-4, KJV). Amen.
Prayer focus:PEOPLE NEW TO PRAYER
วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559
เตรียมตัวทำงาน PREPARED FOR ACTION
"ท่านทั้งหลายจงเตรียมตัวเตรียมใจของท่านไว้ให้ดี และจงข่มใจ ตั้งความหวังให้เต็มเปี่ยมในพระคุณ คือพระคุณซึ่งจะทรงโปรดประทาน
แก่ท่าน เมื่อพระเยซูคริสต์จะทรงสำแดงพระองค์" (1 เปโตร 1:13)
เพราะคาดว่าวันจันทร์จะมีแดดดีและอบอุ่น ดิฉันจึงวางแผนว่าจะทำสวนดอกไม้
แต่พอถึงวันจันทร์เข้าจริงดิฉันพบแต่ถุงมือทำสวนเท่านั้น หาเสียมอันน้อยๆ เท่าไรก็
ไม่เจอทำให้รู้สึกผิดหวังที่หาเครื่องมือได้ไม่ครบ จึงเลิกทำสิ่งที่อุตส่าห์วางแผนจะทำให้
สำเร็จ การเตรียมตัวทำงาน เช่น การทำสวนนั้นสำคัญฉันใด การเตรียมใจและวิญญาณ
เพื่อทำงานของพระเจ้าแต่ละวันก็สำคัญด้วยฉันนั้น ถึงดิฉันจะไม่สามารถทราบล่วงหน้า
ว่า “พระเจ้าจะทรงใช้ให้ทำงาน” เวลาใดในแต่ละวัน แต่ก็สามารถเตรียมใจไว้ก่อนได้
การอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์และการรอว่าเมื่อใดพระเจ้าจะทรงมอบหมายให้ทำสิ่งที่ไม่
คาดคิดจะช่วยให้ดิฉันเตรียมการไว้ล่วงหน้า และถ้าได้เตรียมใจไว้พร้อมดิฉันจะทำ
ได้ดีขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ดิฉันรู้สึกว่าถูกสะกิดใจให้โทรฯไปหาแม่เพื่อนของลูกชาย เพื่อ
ชวนลูกชายของเธอไปงานสำคัญที่โบสถ์กับเรา ดิฉันจึงโทรฯไปเพราะเตรียมใจไว้พร้อม
เพื่อทำงาน เมื่อหนุ่มคนนั้นไปกับเราและต่างก็มีความสุขสนุกสนานจนเขาหวังจะไป
ด้วยกันอีก
พระเจ้าทรงให้เกียรติการเตรียมพร้อมของเรา โดยมอบให้เราเป็นผู้หว่านเมล็ดพันธุ์
เพื่อแผ่นดินของพระองค์ในโลกนี้
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้าโปรดช่วยข้าพระองค์
ทั้งหลายให้เตรียมจิตใจไว้พร้อมเสมอเพื่อทำ
พันธกิจของพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ข้าพเจ้าจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้ตอบรับการทรงเรียกของพระองค์
ผู้เขียน: คิม ฮาร์นส์(ไอโอวา)
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่ท้อใจได้ง่าย
---------------------
"Prepare your minds for action; discipline yourselves; set all your hope on the grace that Jesus Christ will bring you when he is revealed."- 1 Peter 1:13 (NRSV)
Sunshine and warm temperatures were expected on Monday, and I had planned to do some landscaping. But when Monday arrived, I could find only one gardening glove, and my small shovel was nowhere to be seen. Frustrated by my unsuccessful search for supplies, I gave up on the task I had planned to complete.
Just as it is important to be prepared for physical tasks like yard work, it is also important that we are prepared mentally and spiritually each day for the tasks God has in store. We can’t always know ahead of time what “God-appointments” we will have on a given day, but we can prepare our minds for action. Through scripture, prayer, and the expectation that God will throw unforeseen assignments my way; we can be prepared ahead of time. And when we’re ready, we’re more apt to obey.
Recently I felt the nudge to call the mother of my son’s friend to invite her son to a church event. I made the call because my mind was prepared for action. The young man came with us and had so much fun that he hopes to return.
God honors our preparation by allowing us to be the sowers of seeds for God’s reign on earth.
The Author: Kim Harms (Iowa, USA)
Thought for the Day: I will prepare myself to answer God’s call.
Prayer: Dear God, help us to prepare our spirits so we are ready when you place a task before us. Amen.
Prayer focus: SOMEONE WHO IS EASILY DISCOURAGED
วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ของประทานด้วยความรัก THE GIFT OF LOVE
ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ (1 โครินธ์13:4)
ดิฉันชอบพระธรรม 1 โครินธ์มากและอยากอ่านในพิธีแต่งงานของลูกชาย ถึงจะ
ไม่ชอบพูดในที่ประชุมแต่ดิฉันก็อยากอ่านให้เป็นข้อคิดและเป็นของขวัญแก่คู่สมรสที่
เพิ่งแต่งงานกัน จึงเริ่มเตรียมตัวด้วยการอ่านออกเสียงดังๆ ให้สามีฟังทุกเช้าและเขา
กับดิฉันจะพูดวลีสุดท้ายพร้อมกันว่า “แต่ความรักใหญ่ที่สุด” (1 โครินธ์13:13)
เมื่อใกล้จะถึงวันแต่งงาน สุขภาพของสามีดิฉันทรุดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าก็เห็น
ได้ชัดว่าเขาไม่สามารถไปร่วมพิธีได้แม้เวลาอาบน้ำ รับประทานอาหารและแต่งตัวดิฉัน
ต้องช่วยเขา บ่อยครั้งเวลาสวมเสื้อให้ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก เขาขอบคุณแสดง
ความพอใจเสมอที่ดิฉันช่วยเหลือเขา และเราต่างก็อ้างพระวจนะจากพระคัมภีร์ให้กัน
และกันฟังว่า “ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้”
สิบวันหลังจากพิธีแต่งงานของลูกชาย สามีของดิฉันก็เสียชีวิต ลูกสะใภ้ของดิฉัน
อ่านพระธรรม 1 โครินธ์บทที่ 13 ในพิธีศพ ดิฉันเรียนรู้จากตอนนั้นว่าความรักเป็น
ของประทานจากเบื้องบน
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงประทับอยู่ด้วยทั้งในยามมีความสุขและ
ยามทุกข์โศกเศร้า ความรักของพระองค์อดทนนานและกระทำคุณให้เสมอ ในพระนาม
พระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อฉันนั้นอดทนเสมอ
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่โศกเศร้าเพราะคู่ชีวิตตายจากไป
ผู้เขียน: เอลีซาเบ็ธ เค. บุช (เมน)
-------------------------------
"Love is patient; love is kind."- 1 Corinthians 13:4 (NRSV)
First Corinthians 13 is a favorite scripture of mine, and I wanted to read it at my son’s wedding. Uncomfortable with public speaking but wanting to give this reading as a gift to the newlyweds, I began preparing by reading it aloud every morning to my husband, Paul. And every morning, he joined me in saying the last few words: “and the greatest of these is love.”
As the wedding day drew closer, my husband’s health began to deteriorate quickly. It soon became clear that he would not be able to attend the wedding. He needed assistance with bathing, eating, and dressing. Putting on a shirt often left him out of breath. He was grateful for the help I gave him, and he expressed his appreciation often. We found ourselves quoting to each other words from the scripture: “Love is patient; love is kind.”
Ten days after the wedding, my husband passed away. My new daughter-in-law read 1 Corinthians 13 at his service. I learned in those days that love is a true gift from God.
Thought for the Day: God’s love for me is always patient.
Prayer: Dear God, thank you for your presence in happy times and in trying times. Your love is always patient and kind. Amen.
Prayer focus: SOMEONE GRIEVING A SPOUSE
The Author: Elizabeth K. Bush (Maine, USA)
วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559
จงฟัง LISTEN TO ME
"เจ้าจงระวังเท้าของเจ้า เมื่อเจ้าไปยังพระนิเวศของพระเจ้าเพราะการเข้าใกล้ชิดเพื่อจะฟังก็ดีกว่าคนเขลาถวายสักการบูชา
ด้วยว่าเขาไม่รู้ว่าตนกำลังทำชั่ว" (ปัญญาจารย์5:1)
ตอนเป็นเด็กผมเรียนศิลปะการป้องกันตัว ทุกครั้งจะเริ่มต้นด้วยการโค้งศีรษะคารวะ
ครูผู้ฝึกและนักเรียนที่อายุมากที่สุดในชั้น สำหรับสิ่งที่พวกเขาจะสอนวันนั้นแล้วก็เข้า
ร่วมฝึกสมาธิเราต้องพักปัญหาต่างในวันนั้นไว้ก่อนและทำใจให้ว่าง เพื่อจะได้ตั้งใจฟังคำสั่ง
และทำตามที่ครูสอนเวลาอ่านพระวจนะของพระเจ้า หาก
เราเริ่มต้นด้วยการฝึกสมาธิอย่างเดียวกันนี้จะช่วยให้ทิ้งความวุ่นวายต่างๆ ไว้ข้างหลัง แล้ว
เราจะสามารถเลิกคิดถึงเพื่อนร่วมงานที่คอยสร้างความวุ่นวายใจให้และนักเรียนที่ชอบก่อ
เรื่องเดือดร้อน อีกทั้งการทะเลาะเบาะแว้งหรือความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจ แล้วเราจะ
สามารถตั้งใจฟังสิ่งที่พระเจ้าทรงสอน อันที่จริงแล้วพระองค์ทรงสอนเรื่องเพื่อนร่วมงาน
หรือเรื่องเศรษฐกิจให้เราทราบได้แต่ถ้าตอนอ่านพระคัมภีร์เรามัวแต่คิดถึงแต่เรื่องเหล่านั้น
เราจะพลาดบทเรียนที่พระองค์ทรงสอน นี่คือเหตุผลที่พระธรรมปัญญาจารย์ 5:1 บอกว่า
“เจ้าจงระวังเท้าของเจ้า เมื่อเจ้าไปยังพระนิเวศของพระเจ้า เพราะการเข้าใกล้ชิดเพื่อจะฟังก็
ดีกว่าคนเขลาถวายสักการบูชา ด้วยว่าเขาไม่รู้ว่าตนกำลังทำชั่ว” ผู้เขียนเพลงสดุดีประกาศ
ว่า “พระวจนะของพระองค์เป็นโคมสำหรับเท้าของข้าพระองค์และเป็นความสว่างแก่มรรคา
ของข้าพระองค์” (สดุดี119:105) ถ้าเราเอาปัญหาต่างๆ เข้ามารบกวนการอ่านพระคัมภีร์
อาจจะทำให้เราหัวหมุนจนหลงทาง ถ้าเราถ่อมใจอ่านด้วยจิตใจปลอดโปร่ง พระเจ้าจะทรง
ส่องสว่างทุกย่างก้าวในชีวิตของเรา
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า โปรดเปิดใจข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อจะได้ฟังพระองค์ตรัส ขอ
ให้ใจของข้าพระองค์นิ่งสงบเพื่อฟังสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งสอน ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน
ข้อคิดสำหรับวันนี้: เมื่อข้าพเจ้าอ่านพระคัมภีร์ข้าพเจ้าจะทูลพระเจ้าให้ทรงสงบเสียงอื่นๆ ทั้งหมด
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้เข้าร่วมศึกษาพระคัมภีร์
ผู้เขียน:ไคล ทาฟต์(เท็นเนสซี)
-----------------------------------------------
"Guard your steps when you go to the house of God. Go near to listen rather than to offer the sacrifice of fools.
- Ecclesiastes 5:1 (NIV)
As a child, I took lessons in martial arts. Each class began with bowing to the instructor and to the most senior member of the class, out of respect and gratitude for what they would teach us that day. Then we participated in meditation. We were to set aside the day’s struggles, emptying ourselves so that we could focus on the commands and instructions of the teacher.
When we read God’s word, this same practice of meditation can help us set aside distractions before we begin. We can set aside thoughts of the co-worker who annoys us, the trouble-making student, the broken relationships, the fears about finances. Then we can focus on what God has to teach us. God may indeed teach us about the co-worker or our finances, but if we bring all those specific struggles to our reading, we may miss God’s lesson. That’s why Ecclesiastes 5:1 says, “Guard your steps when you go to the house of God. Go near to listen rather than offer the sacrifice of fools.” The psalmist proclaims, “Your word is a lamp for my feet, a light on my path,” (119:105). If we bring the distractions of our day to our Bible reading, we may wind up walking down the wrong path. When we read humbly, with uncluttered minds, ready to listen, God will light each step of our lives.
The Author:Kyle Taft (Tennessee, USA)
Thought for the Day: When I read the Bible, I will ask God to still all other voices.
Prayer: Dear Lord, open up our hearts so that we can hear you. Help us to be still and quiet so that we can listen to your teaching. Amen.
Prayer focus: BIBLE STUDY PARTICIPANTS
สงบเงียบ CALM
[พระองค์]จึงตรัสกับเขาว่า “เหตุไฉนจึงขลาดนักช่างมีศรัทธาน้อยเสียจริงๆ” แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้น
ห้ามลมและทะเล คลื่นลมก็สงบเงียบทั่วไป (มัทธิว 8:26)
เมื่อออกกำลังอย่างหนักเสร็จแล้ว ผมก็ตัดสินใจเดินทอดน่องไปตามชายหาด
พอถึงที่แห่งหนึ่งผมก็หยุดเดินเพื่อดูคลื่นทะเลที่ทรงพลังม้วนตัวเข้ามาหาอย่างน่าชื่นชม
แต่ก็กลัวว่าจะถูกคลื่นซัดจนเปียกโชก ผมมีทางเลือกอยู่สองอย่างว่าจะอยู่ที่เดิมเพื่อ
ดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นดีหรือจะหนีดี แล้วก็ตัดสินใจจะยืนอยู่ที่เดิม เห็นคลื่นลูกใหญ่
กลิ้งมาใกล้ผมช้าๆ แล้วก็ถอยกลับไป
เราจะรู้สึกวิตกกังวลคล้ายๆ กันนี้เมื่อถูกสถานการณ์ครอบงำและขู่เข็ญ เรา
อาจจะรู้สึกว่าตนเองติดอยู่ในกับดักของอารมณ์และจิตใจที่ปั่นป่วน
ถ้ายอมแพ้ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น เราก็เหมือนกับพวกสาวกที่ตกใจกลัวระหว่าง
ถูกพายุซัดเหมือนในพระคัมภีร์ที่อ่านวันนี้ถึงจะเคยเห็นพระเดชานุภาพของพระเจ้า
มาแล้วและมีพระเยซูประทับอยู่ด้วย แต่ความเชื่อของพวกเขาก็ยังคลอนแคลน ถ้า
รู้จักพึ่งพลังของพระเจ้าเต็มร้อยแล้ว ใจเราจะสงบเพราะรู้ว่าทุกสิ่งจะดีขึ้น แม้จะเห็น
คลื่นลูกใหญ่ซัดมาหา เราก็วางใจได้ว่ามันจะถอยห่างออกไปทีละน้อย
อธิษฐาน :ข้าแต่พระเป็นเจ้า เมื่อชีวิตถูกสถานการณ์ทำให้อิดหนาระอาใจ ขอให้
ข้าพระองค์ทั้งหลายเชื่อวางใจในพระองค์ สุดจิตและสุดใจ ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: พลเมืองของสาธารณรัฐโดมินิกัน
ผู้เขียน:เอมี ไยรอน วาสเกซ ซอเรซ (สาธารณรัฐโดมินิกัน)
-------------------------------------------------------
[Jesus] said to them, “Why are you afraid, you people of weak faith?” Then he got up and gave orders to the winds and the lake, and there was a great calm.
- Matthew 8:26 (CEB)
When I finished my exercise regimen, I decided to walk along the beach. At one point I stopped to watch and appreciate the power of a rolling wave as it approached me. I worried I would be soaked by the wave, so I had two options: stay and see what happens, or move back. I decided to stay. Slowly the great wave came toward me, then it receded.
We can feel a similar sense of anxiety when circumstances threaten to overwhelm us. We may feel trapped in an emotional and spiritual whirlwind.
When we allow our anxieties to overcome us, we are like the disciples who were frightened during the storm in today’s reading. They were witnesses to God’s power, and Jesus was among them. Still, their faith failed them. If we learn to depend fully on God’s power, we can remain at peace, knowing that all will be well. Even when we see great waves coming toward us, we can trust that little by little they will recede.
Thought for the Day: I can have peace and joy when I trust in God.
Prayer: Dear God, help us to rely fully on you when we are overwhelmed by the circumstances of our lives. Amen.
Prayer focus: THE PEOPLE OF THE DOMINICAN REPUBLIC
The Author: Eymi Jairon Vásquez Suárez (Dominican Republic)
วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559
น้ำค้างยามเช้า MORNING DEW
"เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างแก่อิสราเอล" (โฮเชยา 14:5)
ดิฉันไปรีทรีตภาคฤดูร้อนที่บ้านหลังหนึ่งในฟาร์มของเพื่อน ทุกคนนอนข้างใน
บ้านนอกจากดิฉันที่นอนบนหญ้าในถุงที่ทำจากผ้าผืนใหญ่อากาศร้อนอบอ้าวทำให้ตัว
เหนียวเหนอะน่ารำคาญ เพราะนอนไม่หลับดิฉันจึงพูดกับวัวที่จ้องมองผ่านรั้วบ้านมา
ดูดิฉันและดูแกะเคี้ยวหญ้าในทุ่งถัดไป มีดาวนับล้านดวงส่องแสงระยิบบนท้องฟ้า
สีครามอยู่เบื้องหลัง จนในที่สุดดิฉันก็ม่อยหลับไป
ดิฉันตื่นขึ้นตอนกลางคืน ไม่ใช่เพราะอากาศร้อนเกินไปแต่เพราะรู้สึกเย็นทำให้
สดชื่นขึ้นอย่างน่าประหลาด น้ำค้างตกลงบนถุงนอนที่ห่อหุ้มดิฉันไว้ทำให้รู้สึกเย็นสบาย
และตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น
อีกหลายวันต่อมาขณะที่อ่านพระธรรมโฮเชยาอยู่ ทำให้คิดถึงน้ำค้างที่สดชื่นคืน
นั้นขึ้นมา โฮเชยา 14:4-5 พูดถึงพวกอิสราเอลที่กลับใจจากการทำบาป พระเจ้าจึงตรัสว่า
“เราจะช่วยรักษาเขาให้หายจากการกลับสัตย์ของเขา เราจะรักเขาทั้งหลายด้วยเต็มใจ
เพราะว่าความกริ้วของเราหันไปจากเขาแล้ว เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างแก่อิสราเอล” ดิฉัน
คิดถึงเรื่องนี้ด้วยความตื่นเต้นระทึกใจ ใช่แล้วดิฉันก็มีความรู้สึกเช่นนั้นด้วย พระสัญญา
ที่ทรงให้แก่พวกอิสราเอลครั้งนั้นสอนเราว่า ความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรานั้นไม่มีวัน
สั่นคลอน ทำให้เราได้หยุดพักและพักฟื้นเหมือนที่ใจใฝ่หา
อธิษฐาน: พระเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายสารภาพบาปต่อพระองค์เพื่อ
ข้าพระองค์จะได้ชื่นใจด้วยน้ำค้างแห่งพระเมตตาที่ทรงให้อภัย ในพระนามพระ-
เยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่เข้าร่วมรีทรีตและผู้นำ
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ข้าพเจ้าอยากสัมผัสความรักของพระเจ้าที่เหมือน
หยาดน้ำค้างอันชื่นใจ
ผู้เขียน: ดอนนา สเคลส์(โอเรกอน)
---------------------------------
"I will be like the dew to Israel."- Hosea 14:5 (NIV)
It was hot, and I was on a summer women’s retreat at my friend’s farm home. Everyone except me slept inside. Lying on the grass, I was sticky and uncomfortable in a sleeping bag made from a large sheet. I couldn’t sleep; so I talked to the cows as they stared back at me through the fence, and I watched the sheep munching away in the next field. From a dark blue sky a million stars sparkled back at me. Finally, I slept.
I awoke often in the night — not because I was too hot but because I was surprisingly cooled and wonderfully refreshed. A dew had settled over my sheet, wrapping me in a complete, satisfying feeling of well-being. I woke simply to enjoy that feeling.
Days later, while reading the Book of Hosea, I was reminded of the freshening dew. Hosea 14:4-5 describes Israel turning from sin. God says, “I will heal their waywardness and love them freely, for my anger has turned away from them. I will be like the dew to Israel.” With a thrill of recognition, I thought, Yes! I’ve experienced what that feels like. This promise to Israel reminds us that God’s love for us never wavers and provides the rest and restoration we long for.
Thought for the Day: I want to experience God’s love like the refreshing dew.
Prayer: Dear God, help us to confess our sins to you so that we may be soothed by the dew of your forgiveness and mercy. Amen.
Prayer focus: RETREAT PARTICIPANTS AND LEADERS
The Author: Donna Scales (Oregon, USA)
ยามดีและยามร้าย GOOD TIMES AND BAD TIMES
"ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดม
สมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้อง
และความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุขและความขัดสน" (ฟีลิปปี4:12)
ผมอยู่ระหว่างไม่มีงานทำมาเป็นเวลานาน ในอดีตผมหางานทำได้เสมอ แต่ระหว่าง
ที่ไม่มีงานทำอยู่นี้ผมยอมรับว่าจะต้องพบปัญหาหนักในชีวิต ความลำบากไม่ใช่การ
พิพากษาหรือการลงโทษเสมอไป ยามดีและยามร้ายในชีวิตเป็นของคู่กัน ผมคงจะเป็นคนไร้เดียงสา
ถ้าไม่ยอมรับความทุกข์ลำบาก ในฐานะที่เป็นคริสเตียน ผมมั่นใจในความหวังและวางใจใน
พระบิดาเจ้า
ทั้งโยบและเปาโลใช้ปัญญาเมื่อเผชิญความทุกข์ยาก โยบถามว่า “เราจะรับสิ่งดี
จากพระหัตถ์ของพระเจ้าและจะไม่รับของไม่ดีบ้างหรือ” (โยบ 2:10) ปัญญาจากคำพูด
ของท่านเฉียบแหลมและทำใจยาก เปาโลเขียนในพระธรรมฟีลิปปี4:11 ว่า “เพราะ
ข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะพอใจอยู่อย่างนั้น” สำหรับ
ผมแล้ว ผมยอมรับโดยดุษณีว่าจะต้องพบทั้งยามทุกข์และยามสุข แต่ก็มีความเชื่อ
ความหวังและวางใจในพระเจ้า ซึ่งพระเมตตาและความรักมั่นคงของพระองค์“เป็น
ของใหม่อยู่ทุกเวลาเช้า” (เพลงคร่ำครวญ 3:23)
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงขจัดปัดเป่าความกลัว เมื่อข้าพระองค์ทั้งหลายเผชิญ
ความกลัวขอทรงประทานสันติสุข ให้ข้าพระองค์รู้จักรักและวางใจในพระองค์ ทูลใน
พระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ที่ไม่มีงานทำ
ผู้เขียน: วิลเลียม พีเพิลส์(แคลิฟอร์เนีย)
------------------------------------------------
Paul wrote, “I have learned the secret of being content in any and every situation, whether well fed or hungry, whether living in plenty or in want.”
- Philippians 4:12 (NIV)
I am going through a prolonged period of unemployment. In the past, I had always been able to find work. But during this current period of unemployment, I have come to accept that I will experience hardships in my life.
Hardships are not necessarily times of judgment or punishment. Good times and bad times are both integral parts of life. I would be naïve not to expect hardships; but as a Christian, I can also hold on to hope and trust in God the Father.
Both Job and Paul expressed wisdom in facing hardships. “Shall we accept good from God, and not trouble?” Job asks (Job 2:10). The wisdom of his statement is subtle and difficult to grasp. Paul writes in Philippians 4:11: “I have learned to be content whatever the circumstances.” To me, it is a peaceful acceptance that I will experience both hardship and good times. But my trust, faith, and hope are in God, whose steadfast love and mercies are “new every morning.”
Thought for the Day:I will look for God’s love and mercy today.
Prayer: Dear God, take away our fear as we face hardships. Give us peace in knowing and trusting you. Amen.
Prayer focus: THOSE WHO ARE UNEMPLOYED
The Author: William Peoples (California, USA)
------------------------------------------
วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ตื่นอยู่ AWAKE
"ดูเถิดพระองค์ผู้ทรงอารักขาอิสราเอลจะไม่ทรงหลับสนิทหรือนิทรา พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาท่านพระเจ้าทรงเป็น
ที่กำบังที่ข้างขวามือของท่าน" (สดุดี121:4-5)
เครื่องของเรากำลังบินผ่านกลุ่มเมฆ สักครู่นักบินก็ประกาศว่าเพราะสภาพอากาศ
เลวร้ายเครื่องบินอาจจะตกหลุมอากาศ แต่ไม่ต้องตกใจ ถึงจะอย่างนั้นระหว่างบินดิฉัน
ก็ไม่ค่อยกลัวนัก จึงเอนหลังและหลับตาทันใดนั้น ข้อพระคัมภีร์ที่อ่านวันนี้ก็ดัง
ก้องอยู่ในหูทำให้ดิฉันรู้สึกแปลกๆ ใช่แล้วเป็นเพราะพระเจ้าทรงประทับอยู่ด้วยนั่นเองทำให้รู้สึกสบายใจและมีชีวิตชีวา
ดิฉันเริ่มคิดถึงนักบินที่ตื่นอยู่ขณะที่ผู้โดยสารพากันหลับใหลและขับเครื่องบิน
ด้วยความระมัดระวัง เราวางใจได้เพราะพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ผู้ทรงสร้างของเรา
และนักบินทั่วโลกไม่ทรงหลับสนิทหรือนิทรา (ดูสดุดี121:4)
พระเจ้าไม่มีความกลัว ถ้าเราถวายตัวไว้ในพระหัตถ์ พระองค์จะทรงนำเราอย่าง
ซื่อสัตย์ แม้เมื่อเราไม่มั่นใจว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า ดิฉันขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระวจนะ
และพระเนตรของพระองค์ที่ทรงดูแลเราให้เดินทางจนถึงสุดปลายของชีวิต
-------------------------------
อธิษฐาน: ข้าแต่พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้ข้าพระองค์พึ่งพระองค์และวางใจใน
พระสัญญาของพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: นักบินและลูกเรือ
ข้อคิดสำหรับวันนี้: แม้เมื่อหนทางเห็นได้ไม่ชัดนัก พระเจ้าก็ทรง
นำหน้าเราด้วยความซื่อสัตย์
ผู้เขียน: ซูรามา โมฮาพัตรา (โอดิชา อินเดีย)
---------------------------
"He who keeps Israel will neither slumber nor sleep. The LORD is your keeper; the LORD is your shade at your right hand.
- Psalm 121:4-5 (NRSV)
Our plane was gliding over patches of clouds. After a little while, the crew announced that because of weather, the flight might be bumpy, but there was no reason to panic. However, I had never been so scared during a flight. I leaned back and closed my eyes."
Suddenly, today’s verse echoed in my ear, and I felt something different. Ah! It is God’s presence! It was so different, so comforting and lively.
I started thinking about the pilot who was awake while the passengers were sleeping. He was alert and controlling the aircraft.
Our heavenly Father, Creator and Pilot of the whole universe, never sleeps nor slumbers. We can lean on God without fear. If we surrender ourselves to God’s hands, God will faithfully lead us even when we are not sure of the path ahead. I am thankful for God’s word and for God’s eyes upon each of us until the end of our life journeys.
------------
Thought for the Day: Even when the path seems unclear, God faithfully leads us forward.
Prayer: Heavenly Father, help us to lean on you and to trust in your promises. Amen.
Prayer focus:PILOTS AND AIRCRAFT CREWS
The Author:Surama Mohapatra (Odisha, India)
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ลึกอีกนิด A LITTLE DEEPER
ทันใดนั้นพระเยซูตรัสกับเขาว่า“ทำใจให้ดีไว้เถิด เราเอง อย่ากลัวเลย” (มัทธิว 14:27)
------------
ลูกสาววัยสองขวบของดิฉันยืนลังเลอยู่บนชายฝั่งห่างจากน้ำริมอ่าวไม่ถึงคืบและ
บอกว่า “หนูกลัว” น้าของเธอจึงปลอบว่า “ไม่เป็นไรหรอก ลงมาแค่ก้าวเดียวเท่านั้น”
เธอจึงเดินลงน้ำก้าวเล็กๆ น้านิกกี้บอกอีกว่า “ทีนี้เดินลึกอีกนิดนะ” เธอจึงเดินลึกลง
ไปอีกก้าวและอีกก้าวไปจับมือน้าของเธอด้วยความมั่นใจ “ลึกอีกนิด อีกนิดนะ” ไม่นาน
ลูกสาวของดิฉันก็ยืนอยู่ในน้ำลึกแค่สะเอวและตะโกนด้วยความตื่นเต้นว่า “หนูลงน้ำ
ได้แล้ว หนูลงน้ำได้แล้ว”
ดิฉันรู้สึกอิจฉาลูก ที่จริงดิฉันหลอกตนเองมาตลอดด้วยความรู้สึกอย่างเดียวกัน
ว่าชนะแล้วเพราะกลัวจนไม่กล้าเดินตามพระเยซูลงไปให้ลึกอีกนิด บ่อยแค่ไหนหนอ
ที่ดิฉันยืนอยู่บนฝั่งของความรู้สึกไม่มั่นคง ความไม่มั่นคงนี่แหละที่ทำให้เรากลัวเอา
มากๆ จนต้องยืนบนฝั่งและเตือนตนเองให้ระวังคนอื่นนินทาว่าร้าย แต่พระคริสต์ไม่
เคยกล่าวร้ายเราแม้แต่คำเดียว พระเยซูไม่ทรงต้องการให้เราเอาแต่ยืนอยู่บนฝั่ง แต่
ทรงหนุนใจเราให้ออกมายืนอยู่ตรงที่เราจะพบความเข้าใจลึกซึ้งและเอาชนะความกลัวได้
อย่างแท้จริง โดยตรัสว่า “ลึกอีกนิด อีกนิดนะ” ดิฉันอยากมีความรู้สึกเหมือนลูกสาว
อายุ2 ขวบที่ลงเล่นคลื่นในน้ำอย่างสนุกสนานเบิกบานใจ คือเอาชนะทั้งความกลัว
ความสงสัยและความรู้สึกไม่มั่นคงสิ่งที่นำเราไปสู่ความยินดีเหมือนเด็กๆ ได้ก็คือต้องกล้าก้าวลึกลง
อีกนิดเดียว
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า วันนี้ขอให้ข้าพระองค์ทั้งหลายมีใจกล้าเดินตามพระองค์ลึกลงไปในประสบการณ์คริสเตียน ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: เพื่อให้มีใจกล้า
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ด้วยความช่วยเหลือของพระคริสต์เราสามารถเอาชนะความกลัวและ
ความรู้สึกไม่มั่นคงของเราได้
ผู้เขียน: ซาราห์เจน รีฟส์(จอร์เจีย)
-------------------------------------------
Jesus immediately said to [his disciples]: “Take courage! It is I. Don’t be afraid.”
- Matthew 14:27 (NIV)
My two-year-old daughter stood hesitantly on the shore, the Gulf Coast waters inches away from her feet. “I’m scared,” she said adamantly. “It’s okay,” her aunt coaxed, “take just one step.” She took one baby step. “Okay,” said Aunt Nikki, “now just a little deeper.” She took another step and another while trustingly holding her aunt’s hand. “A little deeper, now a little deeper.” In a few moments my daughter was standing triumphantly waist deep in the shallow water. “I’m in! I’m in!” she shouted excitedly.
I envied her, thinking of all the times I’ve cheated myself of that same feeling of victory because I’m too scared to follow Jesus out a little deeper. How often have I chosen to stay up on the shore of insecurity? Our insecurities may make sense to us, but they keep us on the shore by constantly reminding us of the negative judgments of others. But Christ passes no such judgments. He does not want us to stay on the shore but coaxes us out to where we can find true intimacy and victory. “Just a little deeper,” he says. I want to feel the same joy my two-year-old felt as she jubilantly played in the waves the feeling of victory over my fears and doubts and insecurities. But the path to that kind of joy lies out a little deeper.
Prayer: Dear Lord, grant us the courage to follow you out into a deeper Christian experience today. Amen.
Prayer focus: FOR COURAGE
Thought for the Day: With Christ’s help, we can overcome our fears and insecurity.
The Author: Sarah Jane Reeves (Georgia, USA)
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ขยันฟัง ACTIVE LISTENING
"แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา และเรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้น
ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น แกะนั้นจะไม่พินาศเลย และจะไม่มีผู้ใด
แย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้" (ยอห์น 10:27-28)
ผมเป็นครูฝึกนักบินกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาและสอนนักศึกษาขับเครื่องบินเจ็ต
ความเร็วสูงระบบซับซ้อน สิ่งหนึ่งซึ่งนักศึกษาประสบความลำบากคือการฝึกฟังให้เข้าใจ
คำสั่งสำคัญๆ ทางวิทยุผู้ควบคุมการบินจะพูดเร็วและบางครั้งใช้ศัพท์ย่อทำให้การ
สื่อสารแบบนั้นจับความหมายได้ยากมาก ถ้าคำสั่งทางวิทยุทำให้นักศึกษาของผมสับสน
และฟังไม่ค่อยเข้าใจ ผมจะใช้ประสบการณ์ที่เคยฝึกมาสอนพวกเขาให้แปลคำสั่งของ
ผู้ควบคุมการบิน เราที่เป็นนักบินต้องทำตามคำสั่งเหล่านั้นเพื่อจะบินต่อไปได้อย่าง
ปลอดภัยจนสิ้นสุดภารกิจ
การท้าทายที่นักศึกษาของผมประสบอยู่เสมอนั้นไม่ต่างอะไรกับเราคริสเตียนที่
พยายามทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ถึงเราจะกระหายและตั้งใจที่จะทำตามแผนการ
ของพระองค์ แต่บ่อยครั้งเราก็มักจะละเลยทักษะในการฟัง ดีนะที่เราเป็นผู้ฟังที่ดีได้
เหมือนนักศึกษาของผม การฝึกหูให้รู้จักฟังด้วยการอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำและเข้า
ร่วมนมัสการอย่างซื่อสัตย์จะช่วยให้เราเข้าใจพระบัญชาที่พระเจ้าทรงสื่อมาถึงเราได้
ง่ายขึ้น
ข้อคิดสำหรับวันนี้: วันนี้ข้าพเจ้าจะฟังพระเจ้าและคนอื่นได้อย่างไร
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้อธิษฐานและแสวงหาการทรงนำของ
พระองค์อยู่เสมอ ขอให้ข้าพระองค์ทำตามการทรงนำเหล่านั้นเพื่อจะรับใช้พระองค์ได้ดีขึ้น
ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ
ผู้เขียน:วิลเลียม พี. โมย์นาฮัน (เวอร์จิเนีย)
-----------------------------------
Jesus said, “My sheep listen to my voice; I know them, and they follow me. I give them eternal life, and they shall never perish; no one will snatch them out of my hand.”
- John 10:27-28 (NIV)
I serve as an instructor pilot in the United States Navy Reserve and teach students to fly complex jet aircraft that travel at high speeds. One of the areas in which student pilots encounter difficulty is in learning to listen effectively and understand critical radio communications. Air traffic controllers speak quickly and often use abbreviated terminology, which sometimes makes their communications difficult to grasp. When my students become confused by a radio call they do not comprehend, I draw on past experience and training to help them translate the controller’s instructions. We need those instructions as pilots in order to continue flying safely and to complete our mission.
The challenges faced by my students are not unlike those that we face as Christians trying to carry out God’s will. We might be eager and determined to follow God’s plan in our lives, but too often we neglect to work on our listening skills. Fortunately, like my students, we have the ability to become better listeners. Training our ears through regular study of the Bible and faithful participation in worship makes it easier to understand the communications God is sending us.
Thought for the Day: How will I listen to God and others today?
Prayer: Dear Lord, help us prayerfully and continually to seek your guidance. Help us also to follow that guidance so that we may better serve you. Amen.
Prayer focus: AIR TRAFFIC CONTROLLERS
The Author: William P. Moynahan (Virginia, USA)
วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า WITH GOD’S HELP
"ข้าพระองค์ทราบแล้วว่า พระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งได้และพระประสงค์ของพระองค์
จะไม่หดหู่ไปได้เลย" (โยบ 42:2)
ตอนที่โมเสสเล่าเรื่องพระสัญญาของพระเจ้าให้พวกผู้นำชาวฮีบรูทุกคนทราบ ท่าน
กล่าวว่า พระเจ้าทรงสัญญาจะให้พวกเขาเป็นไท
“ฝ่ายประชาชนเมื่อได้ยินว่าพระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมเยียนชนชาติอิสราเอล...
แล้วก็เชื่อ เขาก็กราบลงนมัสการ” (อพยพ 4:31) พวกอิสราเอลจะตื่นเต้น
สักเท่าใดที่รู้ว่าพระเจ้าจะทรงช่วยปลดปล่อยเขาและคงคิดว่าการอพยพจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย
และทันทีทันใด แทนที่จะเป็นเช่นนั้นสถานการณ์กลับลำบากมาก ฟาโรห์ไม่ยอมปล่อยพวกเขา
ไปตามที่โมเสสทูลขอแต่กลับสั่งให้ทำงานหนักยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นแทนที่จะก้มกราบพระเจ้า
พวกเขากลับโอดครวญ บางครั้งดิฉันเองก็เหมือนกับพวกอิสราเอล ดิฉันวางใจในการทรงนำของ
พระเจ้าและนมัสการพระองค์ด้วยความยินดีปรีดา แต่พอพบว่าทางชีวิตขรุขระเต็มไปด้วย
ก้อนหิน แทนที่จะหันมาหาพระเจ้า ดิฉันกลับบ่น และแทนที่จะเห็นว่าอุปสรรคคือโอกาส
ไว้วางใจในพระเจ้า ดิฉันกลับท้อแท้
ในพระคัมภีร์มีหลายครั้งที่บอกว่าสถานการณ์เลวลงก่อนที่พระสัญญาของพระเจ้า
จะเป็นความจริง โยเซฟถูกจำคุกก่อนจะได้เป็นผู้นำอับราฮัมต้องถวายบุตรชายเป็นเครื่อง
บูชาตามพระบัญชาก่อนที่จะได้เป็นบิดาของชนชาติต่างๆ เปาโลต้องตาบอดก่อนจะเป็น
อัครทูตไปทำงานกับคนต่างชาติ แต่พระเจ้าทรงทำงานในชีวิตของท่านเหล่านี้และทรงทำ
ในพวกเราต่อไป เมื่อรู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่ด้วยเสมอ เราจะยินดีและนมัสการพระองค์ได้แม้ใน
ยามยาก
อธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสัตย์ซื่อ เมื่อข้าพระองค์ทั้งหลายประสบ
ความเดือดร้อนขอให้ได้เห็นว่าพระองค์ยังทรงทำงานในชีวิตของข้าพระองค์ อธิษฐานใน
พระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน: ประชาชนที่อพยพหนีความรุนแรง
ข้อคิดสำหรับวันนี้: ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงเอาชนะ
อุปสรรคต่างๆ ได้
ผู้เขียน: จอร์เจีย บรูตัน (นอร์ธแคโรไลน่า)
----------------------------------------------
"I know that you can do all things; no purpose of yours can be thwarted."
- Job 42:2 (NIV)
When Moses told the Hebrew leaders all that God had promised to accomplish, “They believed. And when they heard that the Lord was concerned . . . they bowed down and worshiped” (Exod. 4:31). How excited the Israelites must have been, knowing that God would deliver them! Perhaps they imagined a quick, easy exodus. Instead, their predicament got worse. Pharaoh wasn’t about to release them simply because Moses told him to; in fact, he imposed tougher demands on them. So rather than bowing down and worshiping God, they complained.
Sometimes I’m like the Israelites. I trust God’s leading and joyfully worship. Then the path gets rocky; and instead of turning to God, I complain. Instead of seeing the obstacles as opportunities to trust God, I get discouraged.
Many times in the Bible, circumstances got worse before God’s promises became reality: Joseph was imprisoned before becoming a leader; Abraham was asked to sacrifice his son before becoming the father of nations; Paul was blinded before becoming an apostle to the Gentiles. But God continued to work in the lives of these people and continues to work in ours. Knowing that God is always present, we can rejoice and worship even in hard times.
Thought for the Day: With God’s help, I can overcome obstacles.
Prayer: Dear Lord, thank you for your faithfulness. When we struggle, help us to see that you are still at work in our lives. In Jesus’ name, we pray. Amen.
Prayer focus: PEOPLE FLEEING VIOLENCE
The Author: Georgia Bruton (North Carolina, USA)
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559
การนำทางวิญญาณ SPIRITUAL GUIDES
"พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ด้วยคำปรึกษาของพระองค์และ
ภายหลังพระองค์จะทรงนำข้าพระองค์ให้ได้รับเกียรติยศ" (สดุดี73:24)
ภรรยาของผมจัดแสดงคอนเสิร์ตระดมทุนเพื่อแก้ไขการจราจร เนื่องจากอาศัย
อยู่ในซอยตันเราจึงเป็นห่วงเรื่องที่จอดรถของผู้มาร่วมงาน ดีนะที่เรามีสวนสาธารณะ
อยู่ถัดไปแต่ทางเข้าต้องผ่านทางแคบระหว่างเสาไม้สูงแค่หัวเข่าสองต้น เราจึงแก้ไขโดยผมกับ
ลูกชายยืนอยู่สองข้างทางคอยช่วยนำคนขับรถทั้งขาเข้าและขาออก
เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึงทางแคบที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์(ดูมัทธิว 7:13-14) ขอบคุณ
พระเจ้าที่มีคนมากหลายทำหน้าที่นำวิญญาณผมให้อยู่กับร่องรอยของความเชื่อและ
มองเห็นความสำคัญของตนเองซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้นำทางชีวิตแก่คนที่ผมเกี่ยวข้องด้วย
ผมอธิษฐานเสมอเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ในเส้นทางที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์ และช่วยนำคนอื่น
มาหาพระเจ้าด้วย
อธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงนำทางชีวิตของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอให้
ข้าพระองค์เป็นที่ปรึกษาแก่ผู้อื่นด้วยความสัตย์ซื่อและจริงใจ ทูลในพระนามพระเยซู-
คริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน : ที่ปรึกษาฝ่ายวิญญาณของข้าพเจ้า
ข้อคิดสำหรับวันนี้ :วันนี้ข้าพเจ้าจะทำหน้าที่นำวิญญาณใครดี
ผู้เขียน : บิลล์ กอสติง (เวสเทอร์นออสเตรเลีย ออสเตรเลีย)
-----------------------------------
"The psalmist wrote, “You guide me with your counsel, and afterward you will take me into glory.”Psalm 73:24 (NIV)
My wife, Megan, arranged a concert at our home to raise funds for a charity that works to eliminate human trafficking. Since we live at the end of a cul-de-sac, we were concerned about parking for the visitors. Fortunately, we have a large park next door, but the only access is through a narrow gap between two knee-high wooden poles. Our solution was for my son and me to stand on either side of the poles to guide the drivers in and out.
This made me think about the narrow path that leads to eternal life. Then, I thanked God for the many people who have acted as spiritual guides to keep me on the path of faith. I also thought about how important it is for me to act as a guide for those whose lives I touch. I pray constantly that I will stay on that path that leads to eternal life and that I may lead others to God as well.
Thought for the Day :For whom can I act as a spiritual guide today?
Prayer:Thank you, God, for our spiritual guides. Please help us to act as faithful mentors to others. Amen.
Prayer focus:MY SPIRITUAL GUIDES
The Author:Bill Gosling (Western Australia, Australia)
วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559
หาและพบ LOST AND FOUND
(บทความจากหนังสือห้องชั้นบนวันที่ 10 ตุลาคม 2559)
"ถ้าผู้หนึ่งมีแกะอยู่ร้อยตัว ตัวหนึ่งหลงหายไปจากฝูง ผู้นั้นจะไม่ละแกะ
เก้าสิบเก้าตัวไว้บนภูเขาแล้วไปเที่ยวหาตัวที่หายนั้นหรือ" (มัทธิว 18:12)
------------------------------------------------------------------
ดิฉันเห็นใจผู้ที่ถูกตัดสินว่าละเมิดกฎหมายเป็นพิเศษ ที่เป็นเช่นนี้เพราะคงได้รับ
“มรดก” จากคุณพ่อ ท่านทำงานช่วยเหลือคนที่ถูกภาคทัณฑ์หรือถูกจำคุก ถึงท่านจะ
เคร่งครัดกับพวกเขาแต่ก็ดูแลเป็นอย่างดีท่านพูดกับพวกเขา พยายามช่วยให้เปลี่ยน
ใจ “สะอาด” และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีเป้าหมายและเกิดผล คุณพ่อบอกดิฉันว่าคนที่
ท่านทำงานด้วยส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ขาดความรัก ทุกคนต้องจึงการความรัก
อย่างมากโดยเฉพาะคนในวัยหนุ่มสาว
นอกจากได้รับอิทธิพลจากคุณพ่อแล้ว ดิฉันอาจจะได้ความเห็นใจนี้จากพระบิดา
ผู้สถิตในสวรรค์ด้วย ขณะที่เรามองดูอาชญากรว่าเป็นคนไร้ค่า แต่พระเจ้าทรงดูแล
รักษาพวกเขา สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาเป็นคนที่พระเจ้าทรงสร้างตามพระฉายาและตาม
อย่างพระองค์ถึงพวกเขาจะเป็นคนไร้กฎหมายพระเจ้าก็ยังรักและตามหา
สวรรค์มีความยินดีปรีดาเมื่อได้พบคนหลงหาย ครอบครัวของดิฉันรู้เรื่องนี้ด้วย
ตนเองเพราะน้องชายของดิฉันเป็นคนหนึ่งในพวกเขา แม้เราทุกคนจะทำบาป พระเยซู
ก็ทรงไถ่โดยหลั่งพระโลหิตของพระองค์เป็นเครื่องบูชา เราจึงได้รับอภัยโทษจากพระเจ้า
แต่ก่อนเราทุกคนเคยละเมิดกฎบัญญัติของพระองค์ แต่เดี๋ยวนี้เราสามารถดำรงชีวิต
อย่างชอบธรรมและใฝ่ดี *“พระคุณพระเจ้านั้นแสนชื่นใจ” จอห์น นิวตัน, 1779
**********************************************
อธิษฐาน : พระเจ้าผู้ทรงเมตตาและเห็นใจ ขอบพระคุณ
ที่ทรงมีพระทัยรักและเมตตา ข้าพระองค์ทั้งหลายอยาก
รักพระองค์ตอบด้วยการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์
ของพระองค์ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน : ผู้ที่รู้สึกว่าไม่มีใครรัก
ผู้เขียน : ยูเลีย แบกเวลล์(เพ็นซิลวาเนีย)
--------------------------------------------
Monday, October 10th, 2016
"If a shepherd has a hundred sheep, and one of them has gone astray, does he not leave the ninety-nine on the mountains and go in search of the one that went astray?"
- Matthew 18:12 (NRSV)
I have a special place in my heart for those who have been convicted of breaking the law. I must have “inherited” it from my father. He worked with people who had been either on probation or incarcerated. He was strict with them, yet caring. He talked with them and tried to help them to change, to get “clean” and begin to live purposeful and productive lives. My dad told me that most of the people he worked with came from dysfunctional families. All of them, especially teenagers, desperately want to be loved.
Maybe, in addition to my dad’s influence, I inherited this empathy from my heavenly Father. While we may see criminals as unworthy, God cares for them; after all, they too are created in God’s image and likeness. In spite of their lawlessness, God loves them and seeks them out.
Heaven rejoices when the lost are found. My family knows it firsthand; my brother was one of them. Even though we are all capable of sin, Jesus redeems us by his shed blood — a sacrifice that brings us God’s forgiveness. All of us who have lived outside God’s law can now live righteously and with purpose.
*“Amazing Grace,” words by John Newton, 1779.
The Author : Yulia Bagwell (Pennsylvania, USA)
Thought for the Day : “I once was lost but now am found.”*
Prayer : Compassionate God, we thank you for your loving heart. We want to love you in return by living according to your will. In Jesus’ name, we pray. Amen.
Prayer focus : THOSE WHO HAVE NEVER FELT LOVED
วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559
วางใจพระเจ้า TRUSTING GOD
(บทความจากห้องชั้นบนวันที่ 9 ตุลาคม 2559)
"จงวางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้
ของตนเอง จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์
จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น" (สุภาษิต 3:5-6)
--------------------------------------------------
เมื่อเร็วๆ นี้ภรรยาของผมเริ่มทำเคมีบำบัดครั้งที่สองภายในสี่ปีผมพยายามทำใจ
กับสถานการณ์ของเราและพึ่งพระกำลังของพระเจ้า ผมวิงวอนพระเจ้าทุกวันว่า “ขอ
ทรงรักษาเธอให้หายโดยเร็วด้วยเถิดพระเจ้าข้า” เพราะคาดว่าจะได้เห็นผลทันที
โมทนาพระคุณที่พระเจ้าทรงอวยพรผมและภรรยามาแล้วหลายปี และหวังว่า
สักวันหนึ่งจะได้ไปอยู่กับพระองค์ แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้และยังพึ่งความเข้าใจของ
ตนเองว่าสุขภาพของภรรยาจะกลับดีได้โดยเร็ววัน ข้อพระคัมภีร์สำหรับอ่านวันนี้สอน
ผมให้พึ่งความเข้าใจจากพระเจ้าแทน ผมจึงพยายามวางใจให้พระเจ้าทรงรักษาภรรยา
ทั้งรู้สึกยินดีในพระสัญญาและได้รับกำลังใจจากพระคัมภีร์ พระเจ้าทรงสัญญาว่าเรา
จะมีความพอใจแม้เมื่อเผชิญความตายหากพึ่งพระกำลังจากพระคริสต์
# ข้อคิดสำหรับวันนี้ : ข้าพเจ้าจะเข้มแข็งได้ถ้าวางใจในพระเจ้า
# อธิษฐาน : ข้าแต่พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ โปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกล้าเผชิญสิ่ง
ที่ไม่รู้จักด้วยความเชื่อมั่นในพระองค์ขออธิษฐานตามที่พระองค์ทรงสอนว่า “ข้าแต่
พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่
เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์
ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก ขอทรงโปรดประทานอาหาร
ประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้ ขอทรงโปรดยกบาปผิดของข้าพระองค์
...แต่ขอให้พ้นจากซึ่งชั่วร้าย เหตุว่าราชอำนาจ ฤทธิ์เดช และพระสิริเป็นของพระองค์
สืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน.
# เป้าหมายของคำอธิษฐาน : ผู้ที่เป็นมะเร็งในวัยชรา
# ผู้เขียน : แกรี คิดดี(แคลิฟอร์เนีย)
----------------------------------------------
"Trust in the LORD with all your heart and lean not on your own understanding; in all your ways submit to him, and he will make your paths straight."
- Proverbs 3:5-6 (NIV)
When my wife, Rae, began chemotherapy treatments for the second time in four years, I tried to become content with our situation and rely on God for strength. My daily supplication to God became, “Please heal her quickly, Lord.” I expected immediate results.
I am grateful that the Lord has blessed my wife and me with many years together, and we hope to be with the Lord someday. But I am still anxious and still rely upon my own understanding as I hope for my wife’s quick return to health. Today’s quoted scripture tells me to look instead to God for understanding. I am trying to trust God with my wife’s healing and find joy in the promises and encouragement of scripture. God promises that we can be content even when facing mortality if we rely on Christ for strength.
Thought for the Day : I can find strength by trusting God.
Prayer : Heavenly Father, give us the courage to face the unknown through our faith in you as we pray, “Our Father which art in heaven, Hallowed be thy name. Thy kingdom come. Thy will be done in earth, as it is in heaven. Give us this day our daily bread. And forgive us our debts, as we forgive our debtors. And lead us not into temptation, but deliver us from evil: For thine is the kingdom, and the power, and the glory, for ever. Amen” (Matt. 6:9-13, KJV).
Prayer focus : OLDER ADULTS FACING CANCER
The Author: Gary Kiddie (California, USA)
พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ชิด GOD IS NEAR
(บทความจากหนังสือห้องชั้นบน วันที่ 8 ตุลาคม 2559)
"จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่าย
ภายในข้าพเจ้า จงหวังใจในพระเจ้าเพราะข้าพเจ้าจะถวายสดุดีแด่
พระองค์อีก ผู้ทรงเป็นความอุปถัมภ์และพระเจ้าของข้าพเจ้า" (สดุดี42:5)
-----------------------------------------------------
หนึ่งในบรรดาหลายสิ่งที่ดิฉันเรียนรู้ครั้งแรกๆ ตอนเป็นครูสอนรวีวารศึกษาคือ
เด็กจะร้องไห้อยากพบพ่อแม่ของตน ทุกวันอาทิตย์จะมีเด็กอย่างน้อยคนหนึ่งน้ำตา
ไหลพรากหลังจากพ่อแม่ที่เขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยออกจากห้องเรียนไป
ดิฉันค่อยๆ อธิบายให้เด็กเข้าใจว่า พ่อแม่ของพวกเขาอยู่ไม่ไกล ที่พวกเขาเข้า
มาในชั้นก็เพื่อช่วยให้ได้เรียนรู้ ไม่ได้หมายความว่าจะทอดทิ้งหรือหนีไปที่ไหนหรอก
พอถึงตาที่ดิฉันเองถูกท้าทายบ้างจนโลกดูสับสนวุ่นวายและรู้สึกว่าช่วยตนเอง
ไม่ได้ ถึงได้เข้าใจว่าเด็กๆ รู้สึกอย่างไร เมื่อย้อนกลับไปดูก็สงสัยว่าทำไมดิฉันถึงต้อง
กลัว ทำไมชีวิตถึงได้ยุ่งยากลำบากนักและทำไมต้องรู้สึกว้าเหว่ด้วย ในเมื่อพระเจ้า
ทรงประทับอยู่ใกล้คอยดูแลดิฉันอยู่ ทรงอนุญาตให้ดิฉันได้เรียนรู้และได้สร้างบุคลิกภาพ
ของตนเอง
เดี๋ยวนี้ เมื่อใดที่ถูกสิ่งเลวร้ายคุกคามทำให้รู้สึกว่าพระเจ้าทรงอยู่ห่างไกล ดิฉัน
จะคิดถึงเด็กๆ ที่ร้องไห้งอแงระหว่างอยู่ในห้องเรียนรวีวารศึกษาเมื่อความมั่นใจกลับคืนมาใหม่
ดิฉันจะตอกย้ำให้ตนเองรู้ว่า “พระเจ้าทรงอยู่ใกล้”
อธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ โปรดหนุนใจข้าพระองค์ทั้งหลายให้เข้มแข็งโดย
ประทับอยู่ด้วยในยามที่ข้าพระองค์เดือนร้อนและคับขัน ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน : ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง
ผู้เขียน : เอสเธอร์ รูอิส ซัลดานา (โคอาฮุยลา เม็กซิโก)
---------------------------------------------------------------
Why, my soul, are you downcast? Why so disturbed within me? Put your hope in God, for I will yet praise him, my Savior and my God.
- Psalm 42:5 (NIV)
One of the first things I learned as a Sunday school teacher is that one child will always cry for their parents. Sunday after Sunday at least one child dissolves into tears after the people who make them feel secure have left the room.
I gently explain to each child that their parents are nearby, that their parents brought them to the class to help them learn. It does not mean that they have been abandoned or will be separated for very long.
Then, when a particular challenge disrupted my world and left me feeling helpless, I understood how the children feel. As I look back I wonder: Why did I fear? Why was life so difficult? Why did I feel lonely? My Lord was nearby, watching over me, but also allowing me to learn and build character.
Now when adversity threatens to make me feel distant from God, I reflect on those distraught children during Sunday school. With renewed confidence I repeat: “God is nearby.”
Thought for the Day : I will seek God’s presence in all that I do.
Prayer : Holy and loving God, strengthen us through your powerful presence in our times of need. Amen.
Prayer focus : SOMEONE WHO FEELS ABANDONED
The Author : Esther Ruiz Saldana (Coahuila, Mexico)
"จิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่าย
ภายในข้าพเจ้า จงหวังใจในพระเจ้าเพราะข้าพเจ้าจะถวายสดุดีแด่
พระองค์อีก ผู้ทรงเป็นความอุปถัมภ์และพระเจ้าของข้าพเจ้า" (สดุดี42:5)
-----------------------------------------------------
หนึ่งในบรรดาหลายสิ่งที่ดิฉันเรียนรู้ครั้งแรกๆ ตอนเป็นครูสอนรวีวารศึกษาคือ
เด็กจะร้องไห้อยากพบพ่อแม่ของตน ทุกวันอาทิตย์จะมีเด็กอย่างน้อยคนหนึ่งน้ำตา
ไหลพรากหลังจากพ่อแม่ที่เขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยออกจากห้องเรียนไป
ดิฉันค่อยๆ อธิบายให้เด็กเข้าใจว่า พ่อแม่ของพวกเขาอยู่ไม่ไกล ที่พวกเขาเข้า
มาในชั้นก็เพื่อช่วยให้ได้เรียนรู้ ไม่ได้หมายความว่าจะทอดทิ้งหรือหนีไปที่ไหนหรอก
พอถึงตาที่ดิฉันเองถูกท้าทายบ้างจนโลกดูสับสนวุ่นวายและรู้สึกว่าช่วยตนเอง
ไม่ได้ ถึงได้เข้าใจว่าเด็กๆ รู้สึกอย่างไร เมื่อย้อนกลับไปดูก็สงสัยว่าทำไมดิฉันถึงต้อง
กลัว ทำไมชีวิตถึงได้ยุ่งยากลำบากนักและทำไมต้องรู้สึกว้าเหว่ด้วย ในเมื่อพระเจ้า
ทรงประทับอยู่ใกล้คอยดูแลดิฉันอยู่ ทรงอนุญาตให้ดิฉันได้เรียนรู้และได้สร้างบุคลิกภาพ
ของตนเอง
เดี๋ยวนี้ เมื่อใดที่ถูกสิ่งเลวร้ายคุกคามทำให้รู้สึกว่าพระเจ้าทรงอยู่ห่างไกล ดิฉัน
จะคิดถึงเด็กๆ ที่ร้องไห้งอแงระหว่างอยู่ในห้องเรียนรวีวารศึกษาเมื่อความมั่นใจกลับคืนมาใหม่
ดิฉันจะตอกย้ำให้ตนเองรู้ว่า “พระเจ้าทรงอยู่ใกล้”
อธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ โปรดหนุนใจข้าพระองค์ทั้งหลายให้เข้มแข็งโดย
ประทับอยู่ด้วยในยามที่ข้าพระองค์เดือนร้อนและคับขัน ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน : ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง
ผู้เขียน : เอสเธอร์ รูอิส ซัลดานา (โคอาฮุยลา เม็กซิโก)
---------------------------------------------------------------
Why, my soul, are you downcast? Why so disturbed within me? Put your hope in God, for I will yet praise him, my Savior and my God.
- Psalm 42:5 (NIV)
One of the first things I learned as a Sunday school teacher is that one child will always cry for their parents. Sunday after Sunday at least one child dissolves into tears after the people who make them feel secure have left the room.
I gently explain to each child that their parents are nearby, that their parents brought them to the class to help them learn. It does not mean that they have been abandoned or will be separated for very long.
Then, when a particular challenge disrupted my world and left me feeling helpless, I understood how the children feel. As I look back I wonder: Why did I fear? Why was life so difficult? Why did I feel lonely? My Lord was nearby, watching over me, but also allowing me to learn and build character.
Now when adversity threatens to make me feel distant from God, I reflect on those distraught children during Sunday school. With renewed confidence I repeat: “God is nearby.”
Thought for the Day : I will seek God’s presence in all that I do.
Prayer : Holy and loving God, strengthen us through your powerful presence in our times of need. Amen.
Prayer focus : SOMEONE WHO FEELS ABANDONED
The Author : Esther Ruiz Saldana (Coahuila, Mexico)
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559
สนิทกัน CONNECTED
"พวกเราผู้เป็นหลายคนยังเป็นกายอันเดียวในพระคริสต์
และเป็นอวัยวะแก่กันและกันฉันนั้น" (โรม 12:5)
------------------------------------------------------------
เพราะลูกชายของดิฉันเป็นมิชชันนารีคณะสหพันธ์แบ๊พติสต์ดิฉันมีโอกาสได้
พบกับคริสเตียนที่ซื่อสัตย์หลายคนขณะที่เดินทางไปกับเขา หรือไปเยี่ยมเขาในประเทศ
ต่างๆ ผลก็คือทำให้ดิฉันรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้เชื่อที่อยู่โพ้นทะเลราวกับพวกเขา
เป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดของดิฉัน
ที่ดิฉันรู้สึกสนิทสนมกับคริสเตียนเหล่านี้ก็เพราะเคยเห็นหน้า เคยได้ยินเสียงและเคยเห็นรอยยิ้ม ดิฉันเห็นว่าแอนดรี นัสทิยา
เซอร์กีและพาเวลมีตัวตนอยู่จริง ตอนที่อ่านบทภาวนาในห้องชั้นบนที่พาเวลเป็นผู้เขียน
ดิฉันจำเขาได้และรู้สึกยินดีที่เขาเป็นน้องชายในพระคริสต์ของดิฉัน เมื่ออธิษฐานเผื่อ
เพื่อนเหล่านี้ก็เป็นการอธิษฐานเผื่อคนที่คุ้นเคยกันเป็นส่วนตัวและเคยได้ยินเรื่องราว
ของพวกเขา
แม้จะไม่มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ เราแต่ละคนก็สามารถพบพี่น้องหญิง
ชายที่พระเจ้าทรงเรียกเราให้รักได้การเดินทางไปทำพันธกิจตามสถานที่ต่างๆ เพื่อ
เลี้ยงอาหาร เยี่ยมเยียนคนเจ็บป่วยหรือคนชรา และอื่นๆ ช่วยให้เราผู้เป็นร่างกาย
ของพระคริสต์ได้สนิทสนมกับคนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนแปลกหน้า
อธิษฐาน : ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้รู้ว่าข้าพระองค์ทั้งหลายเกี่ยวโยงกับทุกคนใน
พระกายของพระคริสต์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
เป้าหมายของคำอธิษฐาน : คริสเตียนทั่วโลก
ผู้เขียน : เด็บบี แอร์กูด (เพ็นซิลวาเนีย)
-----------------------------------------------
"In Christ we, though many, form one body, and each member belongs to all the others."
- Romans 12:5 (NIV)
My son is a United Methodist missionary. I have been fortunate to meet many faithful Christians while traveling with or visiting him in other countries. As a result, I feel just as connected to believers overseas as to those in the next town.
I feel close to these Christians because I have faces, voices, and smiles to help me connect. Andriy, Nastiya, Sergei, and Pavel are real people to me. When I read a meditation in The Upper Room written by Pavel, I can remember him and rejoice that he is my brother in Christ. When I pray for these friends, I’m praying for people whom I know personally. I have heard their stories.
Not all of us have the opportunity to travel to other lands, but each of us can find brothers and sisters God is calling us to love. A local mission trip, a feeding program, a ministry to the sick or elderly, and other creative ministries all help us make a connection in the body of Christ with those who were once strangers.
Thought for the Day : In Christ, we have brothers and sisters all over the world.
Prayer : Dear God, help us always to remember our connection to the entire body of Christ. Amen.
Prayer focus : CHRISTIANS AROUND THE WORLD
The Author : Debbie Airgood (Pennsylvania, USA)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)