วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

วิชา THUM 3014 การพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม 1



รัก และ สามัคคี Love and Unity


ความหมายตามพจนานุกรม
             รัก หมายถึง มีใจเสน่หา, มีใจผูกพัน  คุณธรรมที่แสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ 
คำว่ารักสามารถหมายความถึงความรู้สึก สภาพทางอารมณ์และทัศนะที่แตกต่างกันได้หลากหลาย ซึ่งอาจมีตั้งแต่ความพอใจทั่วไปจนถึงความดึงดูดระหว่างบุคคลอย่างรุนแรง   
             สามัคคี หมายถึง การที่ทุกคนมีความพร้อมกาย พร้อมใจ และพร้อมความคิดเป็นน้ำหนึ่งใจ
เดียวกัน ร่วมรับผิดชอบ  มีจุดมุ่งหมายที่จะปฏิบัติงานให้ประสบความสำเร็จ โดยไม่มีการเกี่ยงงอนหรือคิด
ชิงดีชิงเด่นกัน  ทุกคนมุ่งที่จะให้ภายในกลุ่ม สังคมและประเทศชาติของตนเจริญรุ่งเรือง มีความรักใคร่กลม
เกลียวกันด้วยความจริงใจ ไม่เห็นแก่ตัว 

นิยามความหมาย*
  การมีจิตใจรักเมตตาอย่างบริสุทธิ์ใจ และร่วมมือร่วมใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้อื่นในหมู่
คณะสถาบัน และสังคม เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม

พระคริสตธรรมคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
ยอห์นฺ 13:34   “เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลาย คือ ให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน…”
  โรม 12:10      “จงรักกันฉันพี่น้อง…” 
1 เปโตร3:8 “ในที่สุดนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เห็นอกเห็นใจกัน รักกันฉันพี่น้อง มีจิตใจอ่อนโยน และอ่อนน้อม”   
  สุภาษิต 17:17  “มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก”
ปัญญาจารย์ 4 : 9 – 12   “สองคนก็ดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองย่อมได้รับผลตอบแทนอย่างดีสำหรับการงานของเขา.....”                     


17 ความคิดเห็น:

  1. มอบหมายงานนักศึกษา 590416 อ่านบทความ 1 บทความ แล้วสรุปข้อคิดจำนวน 5 ข้อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ9 ธันวาคม 2559 เวลา 07:44

      ความเป็นหนึ่งอันงดงาม Beautiful Unity

      จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ - เอเฟซัส 4:3
      การได้เห็นสัตว์ผู้ล่าขนาดใหญ่สามตัวกอดและหยอกเย้ากันเป็นภาพที่แปลกตา แต่นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันในศูนย์อนุรักษ์สัตว์เรือโนอาห์ในจอร์เจีย ปี 2001 ศูนย์นี้ได้ช่วยเหลือสิงโต เสือเบงกอลและหมีดำที่ถูกละเลยและทารุณมาหลายเดือน ผู้ช่วยผู้อำนวยการกล่าวว่า “เราจะจับแยกกันก็ได้ แต่พวกมันเหมือนเป็นครอบครัว เราจึงตัดสินใจเลี้ยงไว้ด้วยกัน” แม้จะต่างสายพันธุ์กัน แต่สัตว์ทั้งสามก็ปลอบซึ่งกันและกันระหว่างถูกทารุณและอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
      ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเป็นสิ่งงดงาม แต่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวที่เปาโลพูดถึงในจดหมายถึงผู้เชื่อในเมืองเอเฟซัสนั้นไม่เหมือนใคร เปาโลหนุนใจชาวเอเฟซัสให้ใช้ชีวิตให้สมกับการทรงเรียกให้เป็นอวัยวะของกายเดียวกันในพระคริสต์ (อฟ.4:4-5) ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เมื่อมีความถ่อม ความอ่อนสุภาพและความอดทน ทัศนคติเหล่านี้ยังทำให้เราอดกลั้น “ต่อกันและกันด้วยความรัก” ดังที่เรามีร่วมกันในพระเยซูคริสต์ (อฟ.4:2)
      แม้เราจะแตกต่างกัน แต่ในฐานะสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า เราได้คืนดีกับพระองค์ผ่านการสิ้นพระชนม์ขององค์พระผู้ช่วยให้รอดและคืนดีซึ่งกันและกันผ่านงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ดำเนินในชีวิตของเราทุกวัน
      พระบิดาในสวรรค์ ขอทรงช่วยเราให้เติบโตขึ้นในความอ่อนสุภาพและอดทนต่อผู้อื่น ขอสำแดงให้เราเห็นว่าจะรักผู้อื่นได้อย่างไรแม้ในความแตกต่างกัน
      เราคงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไว้ได้โดยเป็นหนึ่งเดียวกันในพระวิญญาณ
      โดย Marvin Williams
      พันธกิจมานาประจำวัน
      สุปข้อคิด
      1.มีความสามัคคี
      2.มีความปองดองกัน
      3.ช่วยเหลือกันและกัน
      4.ถึงจะต่างสายพันธุ์กันแต่ก็อยู่ด้วยกันอย่างสงบ
      5.ไม่ว่าจะเป็นอะไรมาจากไหนเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน

      ลบ
    2. 590416 อ่านแล้ว OK ครับ GOD BLESS U:

      ลบ
  2. มอบหมายงานนักศึกษา 590050 อ่านบทความ 1 บทความ แล้วสรุปข้อคิดจำนวน 5 ข้อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สงบเงียบ CALM


      [พระองค์]จึงตรัสกับเขาว่า “เหตุไฉนจึงขลาดนักช่างมีศรัทธาน้อยเสียจริงๆ” แล้วพระองค์ทรงลุกขึ้น
      ห้ามลมและทะเล คลื่นลมก็สงบเงียบทั่วไป (มัทธิว 8:26)
      เมื่อออกกำลังอย่างหนักเสร็จแล้ว ผมก็ตัดสินใจเดินทอดน่องไปตามชายหาด
      พอถึงที่แห่งหนึ่งผมก็หยุดเดินเพื่อดูคลื่นทะเลที่ทรงพลังม้วนตัวเข้ามาหาอย่างน่าชื่นชม
      แต่ก็กลัวว่าจะถูกคลื่นซัดจนเปียกโชก ผมมีทางเลือกอยู่สองอย่างว่าจะอยู่ที่เดิมเพื่อ
      ดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นดีหรือจะหนีดี แล้วก็ตัดสินใจจะยืนอยู่ที่เดิม เห็นคลื่นลูกใหญ่
      กลิ้งมาใกล้ผมช้าๆ แล้วก็ถอยกลับไป
      เราจะรู้สึกวิตกกังวลคล้ายๆ กันนี้เมื่อถูกสถานการณ์ครอบงำและขู่เข็ญ เรา
      อาจจะรู้สึกว่าตนเองติดอยู่ในกับดักของอารมณ์และจิตใจที่ปั่นป่วน
      ถ้ายอมแพ้ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น เราก็เหมือนกับพวกสาวกที่ตกใจกลัวระหว่าง
      ถูกพายุซัดเหมือนในพระคัมภีร์ที่อ่านวันนี้ถึงจะเคยเห็นพระเดชานุภาพของพระเจ้า
      มาแล้วและมีพระเยซูประทับอยู่ด้วย แต่ความเชื่อของพวกเขาก็ยังคลอนแคลน ถ้า
      รู้จักพึ่งพลังของพระเจ้าเต็มร้อยแล้ว ใจเราจะสงบเพราะรู้ว่าทุกสิ่งจะดีขึ้น แม้จะเห็น
      คลื่นลูกใหญ่ซัดมาหา เราก็วางใจได้ว่ามันจะถอยห่างออกไปทีละน้อย
      อธิษฐาน :ข้าแต่พระเป็นเจ้า เมื่อชีวิตถูกสถานการณ์ทำให้อิดหนาระอาใจ ขอให้
      ข้าพระองค์ทั้งหลายเชื่อวางใจในพระองค์ สุดจิตและสุดใจ ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
      เป้าหมายของคำอธิษฐาน: พลเมืองของสาธารณรัฐโดมินิกัน
      ผู้เขียน:เอมี ไยรอน วาสเกซ ซอเรซ (สาธารณรัฐโดมินิกัน)

      สรุปข้อคิด 1.เวลามีปัญหาจงมองที่พระเจ้าไม่ใช่ปัญหา
      2.เวลามีปัญหาจงตั้งสติให้มั่น
      3.อย่าหวาดกลัวต่อปัญหาที่เจอ
      4.จงมีความเชื่อในพระเจ้า
      5.อธิฐานต่อพระเจ้าเสมอ

      รหัส590050

      ลบ
    2. อ่านแล้ว OK ครับ GOD BLESS U:

      ลบ
  3. มอบหมายงานนักศึกษา 590516 อ่านบทความ 3 บทความ แล้วสรุปข้อคิดจำนวน 15 ข้อ (บทความละ 5 ข้อคิด)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2559 เวลา 18:58

      นึกภาพวัยรุ่นหญิงสองคน คนแรกสุขภาพดีแข็งแรง อีกคนไม่เคยรู้จักการได้ไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง เธอต้องนั่งรถเข็นและไม่เพียงเจอความท้าทายทางอารมณ์เช่นคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังต้องพบความลำบากและเจ็บปวดทางร่างกายอยู่เสมอ
      แต่เด็กสาวทั้งสองคนยิ้มอย่างร่าเริงขณะอยู่ด้วยกัน วัยรุ่นงดงามสองคนที่ต่างเห็นคุณค่าของมิตรภาพในกันและกัน
      พระเยซูทรงอุทิศเวลาและสนใจคนที่เหมือนกับเด็กหญิงนั่งรถเข็นคนนั้น คนที่มีความพิการหรือความผิดปกติทางกาย รวมทั้งคนที่ถูกดูหมิ่นไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม พระเยซูทรงให้คนหนึ่ง “ในคนเหล่านั้น” ชโลมพระองค์ด้วยน้ำมันหอม สร้างความรังเกียจให้กับผู้นำศาสนา (ลก.7:39) อีกครั้งหนึ่ง เมื่อหญิงคนหนึ่งสำแดงความรักคล้ายๆ กัน พระเยซูตรัสกับคนวิจารณ์ว่า “อย่ายุ่งกับนาง…หญิงคนนี้ได้ทำสิ่งดีงามให้เรา” (มก.14:6)
      พระเจ้าทรงให้คุณค่าทุกคนเท่ากัน ในสายพระเนตรพระองค์ไม่มีความแตกต่าง ในความเป็นจริง เราต่างต้องการความรักและการให้อภัยของพระคริสต์ ความรักของพระองค์ทำให้ทรงยอมตายบนกางเขนเพื่อเรา
      ขอให้เราเห็นผู้อื่นเหมือนที่พระเยซูทรงเห็น คือ ถูกสร้างตามพระฉายาและควรค่ากับความรักของพระเจ้า ขอให้เราปฏิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมและเรียนรู้ที่จะมองเห็นสิ่งดีงามอย่างที่พระองค์ทรงเห็น
      ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยให้เราเห็นคนอื่นอย่างที่พระองค์ทรงเห็นไม่ใช่สำคัญที่ความสามารถหรือหน้าตา แต่เพราะพวกเขาถูกสร้างตามพระฉายาและทรงรักพวกเขามากจนยอมตายเพื่อพวกเขา
      ทุกคนที่เราพบ ต่างมีพระฉายาของพระเจ้า
      สรุปข้อคิดเห็น
      1.อย่ามองคนที่ภายนอก
      2.ความรักความดีงามของพระเจ้ามีให้โดยไม่หวังสิ่งใด
      3.เห็นทุกคนเท่าเทียมกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้น
      4.สอนให้เห็นมิตรภาพของความเป็นเพือนไม่ว่าจะแตกต่างกันแค่ไหน
      5.ความรักของพระเยซูยิ่งใหญ่

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2559 เวลา 19:14

      รักด้วยการกระทำ
      “คุณมีเสื้อผ้า 2-3 ชิ้นจะให้ฉันช่วยซักไหม” ฉันถามแขกที่มาพักที่บ้านของเราในลอนดอน ตาของเขาเป็นประกายและบอกลูกสาวที่เดินผ่านมาว่า “เอาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วของลูกมา เอมี่จะซักให้เรา” ฉันยิ้ม และตระหนักว่าความเอื้อเฟื้อของฉันเพิ่มพูนจากเสื้อผ้า 2-3 ชิ้นไปเป็นเสื้อผ้าหลายกอง
      ต่อมาขณะกำลังตากผ้าบนราวนอกบ้าน ข้อความจากพระคัมภีร์ที่อ่านเมื่อเช้าแวบเข้ามาในความคิด “จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว” (ฟป.2:3) ฉันกำลังอ่านจดหมายที่เปาโลเขียนถึงชาวฟีลิปปี เพื่อกระตุ้นให้พวกเขาใช้ชีวิตสมกับการทรงเรียกของพระคริสต์ โดยให้รับใช้และเป็นหนึ่งเดียวกับผู้อื่น พวกเขากำลังเผชิญการกดขี่ข่มเหง แต่เปาโลต้องการให้พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ท่านรู้ว่าความสามัคคีที่เกิดจากการเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์และสำแดงออกเป็นการรับใช้กันและกันนั้น จะทำให้พวกเขารักษาความเชื่อไว้ได้อย่างเข้มแข็ง
      เราอาจอ้างว่าเรารักผู้อื่นโดยไม่เห็นแก่ตัวหรือถือดี แต่สภาวะที่แท้จริงในใจเราจะไม่ถูกเปิดเผยจนกว่าเราจะสำแดงความรักให้เป็นการกระทำ แม้ฉันถูกทดลองให้พร่ำบ่น แต่ฉันรู้ว่าในฐานะผู้ติดตามพระเยซู พระองค์เรียกให้ฉันรักเพื่อนด้วยการกระทำ และด้วยใจที่ใสสะอาด
      ขอให้เราพบวิธีที่จะรับใช้ครอบครัว เพื่อนและเพื่อนบ้าน เพื่อพระเกียรติของพระเจ้า
      อ่าน ลูกา 22:22-27 และใคร่ครวญว่าคุณจะปฏิบัติตามแบบพระเยซูผู้รับใช้ได้อย่างไร โดยเฉพาะคำที่บอกว่า “แต่ว่าเราอยู่ท่ามกลางท่านทั้งหลายเหมือนผู้รับใช้”
      “การเป็นหนึ่งเดียวกันอาจเป็นของขวัญจากการรับใช้ซื่งกันและกัน”
      สรุปข้อคิดเห็น
      1.ความถ่อมเนื้อถ่อมตัว
      2.ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
      3.ไม่เห็นแก่ตัว
      4.รักคนอื่นด้วยใจที่สะอาด
      5.แสดงความรักด้วยการกระทำ

      ลบ
    3. อ่านแล้ว OK ครับ GOD BLESS U: 590516

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2559 เวลา 19:09

    รักไร้พรมแดน
    ช่วงกบฏนักมวยที่จีนในปี 1900 มิชชันนารีซึ่งติดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในเมืองไท่หยวนฟูตัดสินใจว่า ความหวังเดียวที่พวกเขาจะรอดได้คือการวิ่งฝ่าฝูงชนที่ขู่ฆ่าพวกเขา พวกเขาหนีรอดมาได้ด้วยอาวุธที่มี แต่เมื่ออีดิธ คูมบ์พบว่านักเรียนชาวจีนที่บาดเจ็บสองคนของเธอยังหนีไม่พ้น เธอก็วิ่งฝ่าอันตรายกลับไป เธอช่วยได้หนึ่งคน แต่พลาดตอนวิ่งกลับไปช่วยคนที่สองและถูกฆ่า
    ขณะนั้น มิชชันนารีในเขตซินโจวหนีไปได้และซ่อนตัวในแถบชนบทกับเพื่อนชาวจีนชื่อโหฉวนไคว่ ซึ่งถูกจับตอนไปสำรวจเส้นทางหนีให้เพื่อนๆ ที่ซ่อนตัวอยู่และถูกสังหารเพราะไม่ยอมเปิดเผยที่ซ่อนของพวกเขา
    ชีวิตของอีดิธ คูมบ์และโหฉวนไคว่ทำให้เราเห็นความรักที่อยู่เหนือเชื้อชาติหรือวัฒนธรรม การเสียสละของพวกเขาทำให้เราคิดถึงพระคุณและความรักอันยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้ช่วยให้รอด
    ขณะที่พระเยซูรอการจับกุมซึ่งนำไปสู่การประหาร พระองค์อธิษฐานอย่างจริงจังว่า “พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด” แต่ได้ทรงจบคำทูลขอนี้ด้วยแบบอย่างอันเป็นที่สุดของความกล้าหาญ ความรักและการเสียสละ “อย่างไรก็ดีอย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (ลก.22:42) การสิ้นพระชนม์และฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ทำให้เรามีชีวิตนิรันดร์
    พระเจ้าข้า ขอให้โลกได้เห็นว่าเรารักซึ่งกันและกัน เพื่อเป็นพยานถึงความผูกพันเป็นหนึ่งเดียวที่เรามีในพระองค์ และให้พวกเขาอยากรู้จักพระองค์เช่นกัน
    มีเพียงแสงแห่งความรักของพระคริสต์ที่จะขจัดความเกลียดชังอันมืดมนได้
    สรุปข้อคิดเห็น
    1.มีความเสียสละ
    2.แสงสว่างความรักของพระองค์ขจัดความเกลียดชังที่มืดมนต์ได้
    3.การสละชีวิตตนเองเพื่อให้เพื่อนรอด
    4.ความรักที่มี่อเพื่อนมนุษย์
    5.เสียสละเพื่อชาติ

    ตอบลบ
  5. มอบหมายงานนักศึกษา 590454 อ่านบทความ 2 บทความ แล้วสรุปข้อคิดจำนวน 10 ข้อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ6 ธันวาคม 2559 เวลา 14:59

      รับทราบค่ะ

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ6 ธันวาคม 2559 เวลา 16:31

      1.ชื่อเสียงเเละความถ่อม
      พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน - ฟีลิปปี 2:8
      พวกเราหลายคนหมกมุ่นกับชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นของตัวเองหรือการติดตามรายละเอียดชีวิตคนดัง งานหนังสือหรือภาพยนตร์นานาชาติการออกรายการสัมภาษณ์ทางทีวี จำนวนผู้ติดตามในทวิตเตอร์นับล้าน
      ไม่นานมานี้ นักวิจัยสหรัฐจัดอันดับรายชื่อบุคคลมีชื่อเสียงโดยใช้วิธีพิเศษที่พัฒนามาเพื่อสืบค้นทางอินเตอร์เน็ต พระเยซูติดอันดับบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์
      แต่พระเยซูไม่เคยสนพระทัยการเป็นคนดังเมื่อทรงอยู่ในโลก พระองค์ไม่เคยแสวงหาชื่อเสียง (มธ.9:30; ยน.6:15) แม้ชื่อเสียงจะติดตามพระองค์ไปเช่นเดียวกับข่าวเรื่องพระองค์ที่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นกาลิลีอย่างรวดเร็ว (มก.1:28; ลก.4:37)
      ไม่ว่าพระเยซูเสด็จไปไหน ฝูงชนรวมตัวขึ้นที่นั่น การอัศจรรย์ที่ทรงทำดึงดูดคนมากมายมาหาพระองค์ แต่เมื่อพวกเขาจะบังคับให้พระองค์เป็นกษัตริย์ พระองค์ก็ทรงหลบหนีไป (ยน.6:15) พระประสงค์ของพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา พระองค์จึงทำตามน้ำพระทัยและเวลาของพระบิดาเสมอ (4:34; 8:29; 12:23) “พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน” (ฟป.2:8)
      เป้าหมายของพระเยซูไม่ใช่ชื่อเสียง พระประสงค์ของพระองค์เรียบง่าย ในฐานะพระบุตร พระองค์ทรงถ่อม เชื่อฟังและยินดีถวายตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของเรา
      ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงคู่ควรแก่คำสรรเสริญยิ่งนัก ทรงสูงส่งและทรงนามเหนือนามใดๆ วันหนึ่งทุกเข่าจะกราบลงและทุกลิ้นจะยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า
      พระเยซูเสด็จมาไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่เพื่อถ่อมพระทัยถวายตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของเรา
      1.ความเสียสละ
      2.ไม่ทำอะไรเพราะหวังเพียงชื่อเสียง
      3.เชื่อฟังเเละประพฤติตามในสิ่งที่ดี
      4.ไม่หมกมุ่นอยึ่กับชื่อเสียง
      5.ควรมีความถ่อมตน
      น.ส.ณัฐชยา ชนประชา 590454

      ลบ
    3. ไม่ระบุชื่อ6 ธันวาคม 2559 เวลา 16:38

      2.พร้อมใจกัน
      ขณะนิโคลัส เทย์เลอร์ ขึ้นรถไฟในเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ขาของเขาไปติดอยู่ระหว่างชานชาลากับขบวนรถ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยเขาออกมาไม่ได้ จึงขอให้ผู้โดยสารราว 50 คนยืนเรียงแถว ช่วยกันดันรถไฟเมื่อนับถึงสาม การร่วมมือกันทำให้ดันรถไฟขึ้นพอที่ขาของเขาจะหลุดออกมาได้
      อัครทูตเปาโลพูดถึงพลังของคริสเตียนที่ร่วมมือกันไว้ในจดหมายหลายฉบับที่เขียนถึงคริสตจักรยุคแรก ท่านเรียกร้องให้ผู้เชื่อชาวโรมันยอมรับกันและกันดังเช่นที่พระคริสต์ได้ทรงทำ “(ขอพระเจ้า) โปรดช่วยให้ท่านมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันตามอย่างพระเยซูคริสต์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้พร้อมใจกันสรรเสริญพระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (รม.15:5-6)
      การเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้เชื่อทำให้เราได้ประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและช่วยเราอดทนต่อการกดขี่ข่มเหง เปาโลรู้ว่าชาวเมืองฟีลิปปีจะต้องจ่ายราคาเพื่อความเชื่อ ท่านจึงหนุนใจพวกเขาให้ต่อสู้ “เหมือนอย่างเป็นคนเดียวเพื่อความเชื่ออันเกิดจากข่าวประเสริฐนั้น และท่านไม่เกรงกลัวผู้ที่ขัดขวางท่านแต่ประการใดเลย” (ฟป.1:27-28)
      ซาตานชอบทำให้แตกแยกและเอาชนะ แต่มันล้มเหลวเมื่อเรา “เพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานนั้นด้วยสันติภาพเป็นพันธนะ” ด้วยการทรงช่วยจากพระเจ้า (อฟ.4:3)
      “ข้าแต่พระเจ้า ขอให้คริสเตียนในทุกที่ทั่วโลกได้รับพระพรจากการเป็นหนึ่งเดียวกันในพระองค์ ขอเตือนให้เราระลึกถึงสิ่งที่เรามีคือความหวังเดียว ความเชื่อเดียว และพระเจ้าเดียว คือองค์พระเยซูคริสต์”
      “ความเป็นหนึ่งเดียวกันของเรา เกิดขึ้นเมื่อเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์”
      ข้อคิด
      1.ความรักต่อเพื่อนมนุษย์
      2.ความสามัคคี
      3.ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
      4.ความเพียรพยายาม
      5.คนเราควรมีความหวัง

      ลบ
    4. อ่านแล้ว OK ครับ GOD BLESS U: 590454

      ลบ